ในคืนนั้น ที่ร้านหลังวิทยาลัย ขนุนกำลังฉลองกับพวกแก๊งผลไม้รวม ที่สามารถใส่ความแก้วรุ้งจนเสียหายได้ กระถินกับลูกกบแอบได้ยิน กระถินแค้นมากถอดสร้อยพระนาคปรกฝากลูกกบไว้ แล้วเข้าไปเล่นงาน ใช้พลังเหนือมนุษย์ทำให้ขนุนเลอะเทอะเป็นขนุนเน่า ลิ้นจี่กับลำไยวิ่งหนี กระถินวิ่งตามจนพลัดหลงเข้าไปในโกดังร้างแห่งหนึ่ง
ในนั้นมีโต๊ะ เก้าอี้ ทีวี ตู้เย็นและของใช้ที่ชำรุดกอง อยู่เต็มไปหมด กระถินตะโกนเรียกลิ้นจี่กับลำไยให้ออกมา ทันใด...มีขาเก้าอี้เหล็กลอยพุ่งมาใส่ กระถินหลบได้อย่างหวุดหวิด แล้วมีเงาดำวูบผ่านไปผ่านมา กระถินมองตามอย่างระแวดระวัง พลันหลอดไฟแตกกระจายทำให้เธอโดดหลบแล้วเหมือนมีกรงเล็บกรีดเข้าที่ต้นแขนเธอ เลือดกระฉูด กระถินเจ็บปวดเอามือกุมแผลไม่ทันไรแผลสมานเข้าหากันเอง แล้วกรงเล็บก็กรีดเข้าที่ขาเธออีกจนเธอทรุดฮวบลงร้องโอ๊ย...พยายามวิ่งหนี แต่ถูกโต๊ะเก้าอี้ที่กองอยู่ทลายลงมาหวิดทับเธอ อมรสวมชุดคลุมสีดำมีฮูดอำพรางหน้า วิ่งเท้าไม่ติดพื้นเข้ามาล็อกคอเธอ เขาแยกเขี้ยวคล้ายผีดิบจะกัดต้นคอเธอ
กระถินแทบขาดใจ จู่ๆต๋องโผล่เข้ามาตะโกน "เฮ้ย...ทำอะไรกัน..."
ต๋อง ถือไม้คมแฝกแอ๊กท่าอย่างฮีโร่ วิ่งเข้าไปเอาไม้ฟาดที่ท้ายทอยอมรเต็มแรง แต่ไม้หักสองท่อนอมรไม่เป็นไร ต๋องตาค้าง กระถินร้องบอกให้ต๋องหนีไป "...มันไม่ใช่มนุษย์"
"ไม่ใช่มนุษย์ ก็ผีน่ะสิ!" ต๋องกลัวลานจะวิ่งหนี
ทัน ใด...อมรก็เหวี่ยงกระถินไปอัดกำแพง ต๋องถลาเข้าไปประคอง อมรย่างสามขุมยื่นมือไปบังคับยกร่างต๋องลอยขึ้นจากพื้นดึงเขาไปหาแล้วบีบคอ จนต๋องตะกุยตะกายในอากาศ ต๋องยังมีสติร้องบอกกระถินให้หนีไปไม่ต้องห่วงเขา กระถินนึกไม่ถึงว่าต๋องจะเสียสละเพื่อเธอ พลันต๋องนึกได้ล้วงหยิบสร้อยพระนาคปรกออกมาคล้องไปที่คออมร อมรถึงกับผงะไม่ได้เจ็บปวดแต่ทำให้เขาหมดพลัง ทันใดก็มีเหล็กแหลมเสียบเข้ามากลางตัว อมรตาเหลือกหันไปมองเห็นกระถินกระแทกเหล็กเข้ามาอีก ร่างอมรสลายกลายเป็นกลุ่มควัน สร้อยพระร่วงหล่นลงพื้น ต๋องเองก็ร่วงผล็อยลงมา เขาคว้าสร้อยมาเก็บไว้ กระถินปราดเข้ามาหาต๋อง
"ต๋อง...นายเป็นอะไรหรือเปล่า"
"โอย...ก็เกือบซี้เป็นผีเฝ้าโกดังน่ะสิ ยัยกระทิงโหด"
"ปากเน่ายังงี้ น่าปล่อยให้ไอ้ปีศาจนั่นมันฆ่าซะก็ดี" กระถินรู้สึกเจ็บแผลเอามือลูบขา
ทันใด ต๋องมองไปเห็นแผลที่ขากระถินเลือนหายไปก็ตกใจ "เฮ้ย! ทำได้ไง เธอ...ก็ ก็ไม่ใช่คนเหมือนกันใช่มั้ย จ๊าก...ผีหลอก"
"ไอ้บ้าต๋อง หยุดเดี๋ยวนี้นะ" กระถินวิ่งตามต๋องซึ่งวิ่งทะลุฝาไม้กระดานออกไป
ต๋อง กำสร้อยในมือวิ่งร้องช่วยด้วยๆ กระถินวิ่งไต่ขอบสะพานร้องให้ต๋องหยุดแล้วม้วนตัวตีลังกามาดักหน้า ต๋องยิ่งกลัวลานยกมือไหว้จะกรวดน้ำไปให้ กระถินดึงพระในมือต๋องมาถือโชว์ "ฮึ่ย...ไอ้บ้า...ฉันไม่ใช่ผี เห็นมั้ย ฉันจับพระได้"
ต๋องชะงักมอง ลุกเดินมาหา "เออ จริงด้วย เฮ้ย...ในฐานะที่ฉันเสี่ยงชีวิตช่วยเธอ ฉันขอให้เธอพูดความจริงเดี๋ยวนี้ เธอเป็นตัวอะไรกันแน่!"
กระถินชั่ง ใจสักพัก ตัดสินใจเล่าเรื่องของเธอให้ต๋องฟัง "...ฉันไม่รู้ว่าพลังพิเศษเกิดขึ้นได้ยังไง รู้แต่ว่า ถ้าฉันใส่พระ นาคปรกองค์นี้ ฉันจะใช้พลังไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันกลับช่วยป้องกันฉันจากไอ้ผีร้ายนั่นได้"
ต๋องงงเป็น เรื่องที่แปลกมาก กระถินนึกได้ว่าเธอถอดสร้อยฝากไว้กับลูกกบ แล้วมาอยู่กับต๋องได้อย่างไร...ต๋องเล่าว่าตอนที่เขาวิ่งตามหาแก้วรุ้ง ได้ชนกับลูกกบ สร้อยนี้ตกอยู่ เขาจึงเก็บไว้คืน กระถินจำได้ว่ายังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องภาพเขากับแก้วรุ้ง จึงตบหลังต๋องผัวะ ต๋องร้องลั่นว่ามือคนหรืออุ้งตีนหมี กระถินยกมือจะซัดอีก ต๋องรีบแหย่
"อ๊ะๆ อย่ามาหาเรื่องแต๊ะอั๋ง บอกฉันมาดีกว่า ว่าไอ้ผีร้ายตัวนั้นมันจะฆ่าเธอทำไม?"
กระถิน ส่ายหน้าเธอก็ไม่รู้ ต๋องหาว่าเธอเป็นกิ๊กกับผี กระถินโกรธลุกเดินหนี ต๋องทวงคำขอบคุณที่เขาช่วยเธอ กระถิน กำหมัดจะให้แทน แต่พอก้าวจะชกหน้ากลับเหยียบเชือกรองเท้าตัวเอง จึงล้มทับต๋องปากประกบปากต๋องเข้าพอดี ทั้งสอง ตะลึงนิ่งงัน...กระถินถอนหน้าขึ้นมารีบลุกนั่งมือกุมปากอึ้งๆ ต๋องยิ้มกริ่มลุกตามมองหน้ากระถิน
"นี่เป็นวิธีขอบใจของเธอสินะ...กระถิน ฉันเป็นจูบแรก ของเธอใช่มั้ย..."
กระถินทั้งโกรธทั้งอาย ด่าได้แรงสุดว่า "ไอ้บ้า...แกขโมยจูบฉัน"
กระถิน ผลักต๋องล้มไปใหม่แล้วลุกวิ่งหนีไป ต๋องรู้สึกสุขใจอย่างประหลาด...กระถินวิ่งกลับมาบ้านหน้าตาตื่นจนยายบัวตกใจ เห็นสภาพมอมแมมยิ่งเป็นห่วงถามว่าไปโดนอะไรมา กระถินตอบไปว่าตกต้นไม้ ยายบัวไม่เชื่อที่ทโมนอย่างนั้นจะตกต้นไม้ได้ เสียงต๋องดังมา
"ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...ดูสิ เขิน...เอ๊ย...ชาจนหน้าแดงแล้ว จริงมั้ย?"
กระถิน ตกใจโวยว่าเขาตามมาทำไมแล้วไล่ให้กลับไป ต๋องจงใจยั่ว "เฮ้อ...อุตส่าห์เป็นสุภาพบุรุษตามมาส่ง ยังจะมาไล่ รู้งี้ ส่งจูบบ๊ายบายตั้งแต่ที่สะพานแล้วดีกว่า"
"อี๋...ไอ้ทุเรศ แกไอ้โรคจิต ฝากไว้ก่อนเถอะ" กระถินเขินจนต้องหนีเข้าบ้านไป
ยาย บัวยิ่งแปลกใจว่ากระถินเป็นอะไรและตกต้นไม้ ได้อย่างไร ต๋องยิ้มๆตอบ "โบราณว่าสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ ยังรู้พลั้ง คนเรามันก็ต้องมีจุดอ่อนกันบ้างสิยาย..."
ยายบัวยิ่งงงว่าจุดอ่อนอะไร ต๋องอมยิ้ม "ผมก็ไม่นึกเหมือนกัน กระทิงถึกแพ้รสจูบนี่เอง"
ยาย บัวได้ยินไม่ถนัดหาว่าต๋องยิ่งพูดยิ่งงง ต๋องหัวเราะฮึๆ แล้วลากลับ ฮัมเพลงเดินออกไป...กลับมาถึงร้าน นั่งอมยิ้มอารมณ์ดี จนแป๊ะเล้งกับสำลีสงสัยว่าลูกกำลังมีความรัก จึงถามว่าสาวหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่ออะไร ต๋องจึงนึกถึงหน้าแก้วรุ้งขึ้นมา แล้วชักสับสนในใจ...
ooooooo
ในที่รกร้าง อมรเซมาล้มเลือดท่วมตัวอย่างเจ็บปวด กินรีตามมาเจอตกใจเข้าประคองถามว่าใคร ทำ อมรเริ่มหนาวสั่นเหมือนคนใกล้ตาย "นานแล้ว...ที่ฉันไม่เคยรู้สึกถึงความตายวนเวียนอยู่ใกล้ตัวฉันแบบนี้ พระนาคปรกองค์นั้น ทำให้ฉันหมดพลัง โอ๊ย..."
กินรีตกใจร้องถามจะให้ เธอช่วยอย่างไร อมรให้หาเลือดสดๆมาให้เขา...ระหว่างนั้นเหมันต์กับแก้วรุ้งเดินจูงมือกันออก มาจากงานวัดอย่างมีความสุข แก้วรุ้งบอกเหมันต์ว่าเธอจะไม่ลืมคืนนี้เลย แต่เหมันต์เตือนเธออย่างเศร้าๆว่า ไม่อยากลืมแต่เธอก็ต้องลืม แก้วรุ้งรีบเปลี่ยนเรื่องชวนเขาไปหาอะไรกินเพราะเธอหิวแล้ว
แก้วรุ้ง มาที่ร้านบะหมี่ของต๋อง แป๊ะเล้งกับสำลีเห็น ต๋องเขินอายยิ้มแก้มแทบปริ จึงเข้าใจว่าแก้วรุ้งเป็นแฟนต๋อง แก้วรุ้งคุยให้ต๋องฟังว่าคืนนี้เป็นคืนที่เธอมีความสุขที่สุด ต๋องคิดว่าใจตรงกับเขา แต่พอเธอสั่งบะหมี่สองชาม ต๋องแปลกใจแต่คิดว่าเธอคงหิว เขารีบไปทำบะหมี่อย่างพิถีพิถัน ทำลูกชิ้นเป็นรูปหัวใจสีชมพู...แก้วรุ้งชะเง้อมองหาเหมันต์ พอหันไป ก็ชนเข้ากับเขาพอดี เหมันต์ไปซื้อกุหลาบมาให้เธอ แก้วรุ้ง ยิ้มดีใจ แป๊ะเล้งกับสำลีเห็นท่าทีหยอกล้อของสองคนนั่นจึงสะกิดถาม "ต๋องแน่ใจนะว่าแก้วรุ้งเป็นแฟนลูก"
"ผู้หญิงคนนี้แหละแม่ ที่ต๋องตามหามาทั้งชีวิต" ต๋องพูดโดยไม่หันไปมอง
แต่ พอสำลีถามว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ต๋องหันไปเห็นท่าทางสนิทสนมของแก้วรุ้งกับเหมันต์ถึงกับหมดแรงตะเกียบหลุด มือ แต่กัดฟันทำบะหมี่จนเสร็จยกไปเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ พอแก้วรุ้งเห็นลูกชิ้นรูปหัวใจสีชมพูก็คีบใส่ชามเหมันต์
"ลูกชิ้นรูปหัวใจ แก้วยกให้พี่ค่ะ" แก้วรุ้งสบตาเหมันต์ ด้วยความรัก
ต๋อง ปวดใจน้ำตาคลอ แก้วรุ้งเห็นถามว่าเขาเป็นอะไร ต๋องปาดน้ำตาก่อนตอบว่า "แค่พริกป่นเข้าตานิดหน่อย ต๋องดีใจด้วยนะ ที่แก้วมีคนคอยดูแลหัวใจแล้ว...ไอ้เหมันต์ ฉันฝากดูแลแก้วรุ้งด้วย...มีความสุขมากๆนะแก้ว..."
ต๋องตบไหล่ เหมันต์แล้วหันหลังวิ่งออกไป เหมันต์เข้าใจความรู้สึกต๋องร้องเรียกเพื่อน แก้วรุ้งงงว่าต๋องเป็นอะไร แป๊ะเล้งกับสำลีเข้ามาถามแก้วรุ้งตรงๆว่าจะเลือกต๋องหรือเหมันต์
"ทำไมต้องเลือกล่ะคะ ต๋องเป็นเพื่อนแก้ว ส่วนพี่เหมันต์เป็นพี่ชายคนพิเศษของแก้ว"
"แต่ไอ้ต๋องมันรักหนูนะ" สำลีบอกให้แก้วรุ้งรู้
แก้ว รุ้งตกใจคิดไม่ถึง เธอพรวดพราดออกจากร้านวิ่งตามต๋องไปทันที เหมันต์ตามออกไปด้วย...ต๋องเสียใจวิ่งออกไปตามถนนไม่สนใจรถที่ขับหลบ คนขับตะโกนด่า มาจนถึงบนสะพาน คิดอยากโดดลงไปให้พ้นๆ อู๊ดมาเห็นร้องห้ามดึงต๋องลงจากสะพานแล้วพูดปลอบใจ ว่ายังมีพ่อแม่และตัวเขาที่รักต๋องอยู่ ต๋องได้สติ พลันได้ยินเสียงขนุนร้องให้คนช่วย รีบวิ่งพรวดไป
ขนุนเดินเซซังมาใน ซอยเปลี่ยว เจอกินรีในสภาพปีศาจเขี้ยวยาวโง้ง จึงร้องกรี๊ดๆวิ่งหนีแต่ไม่พ้น ถูกกินรีตะปบโดนหน้าเป็นแนวยาว และดึงร่างเธอลอยไปกระแทกกำแพง และยังตามมาหิ้วคอเสื้อเธอจะเอาตัวไปเป็นอาหารให้อมร ต๋องวิ่งมาถึงร้องบอกให้ปล่อยขนุน
"ต๋อง ช่วยฉันด้วย คุณกินรีไม่ใช่คน"
"ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นอะไร ก็เตรียมตัวตายได้แล้ว" พูดจบกินรีก็หันไปเล่นงานต๋อง
ต๋อง เจ็บตัวแต่ยังห่วงบอกให้ขนุนหนีไป ขนุนลังเลเล็กน้อยตัดสินใจกะโผลกกะเผลกวิ่งหนี ต๋องถูกกินรีใช้กรงเล็บแทงกะซวกเข้าที่ท้องจนเลือดกระฉูด อู๊ดตามมาเห็นตกใจทั้งกลัวทั้งห่วงเพื่อน ทันใด อาจารย์เพี้ยนโผล่มาใช้มือถือกดปุ่มส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าความถี่พิเศษพุ่งใส่ กินรี จนเธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนต้องพุ่งทะยานหนีไป
"เป็นไงล่ะ เจอฤทธิ์เครื่องช็อตไฟฟ้าระยะไกลของฉัน"
"ถ้าอาจารย์มาไม่ทัน ผมคงถูกคุณกินรีซิวไปแล้ว ไม่นึกเลยว่ายายนั่นจะเป็นปีศาจไปได้"
"ยังมีอีกตั้งหลายเรื่อง ที่เธอยังไม่รู้" อาจารย์เพี้ยนพูดแล้ววิ่งไปดูต๋องที่นอนจมกองเลือด
พอเห็นว่าอาการต๋องหนักและเสียเลือดมากก็ตกใจ...
กินรี หนีมาจนถึงซอยเปลี่ยว เจ็บใจที่เสียทีอาจารย์เพี้ยน พลันเห็นผู้หญิงกลางคืนสองคนจึงหอบหิ้วเอามาเป็นอาหารให้อมรดื่มเลือดไป ก่อน...อาจารย์เพี้ยนกับอู๊ดช่วยกันอุ้มต๋องมาที่คณะ เข้าไปในสตูดิโอทำอาหาร อาจารย์เพี้ยนขยับกระทะที่แขวนอยู่ ผนังห้องเลื่อนออกเห็นลิฟต์แก้วเรืองแสง
"นี่สตูดิโอทำอาหารหรือว่าองค์การลับเนี่ยอาจารย์ ทำไมถึงได้ดูลึกลับอย่างนี้" อู๊ดตาโต
"วิทยาลัยแห่งนี้สร้างอยู่บนเนื้อที่เหมืองเก่า จึงมีเส้นทางลับใต้ดินเชื่อมต่ออาคารส่วนต่างๆของที่นี่เอาไว้ถึงกันหมด"
"ทำไมอาจารย์ถึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับที่นี่ดีจัง"
"ที่ดินวิทยาลัยแห่งนี้ เคยเป็นของฉันมาก่อน"
อู๊ดอุ้ม ต๋องออกจากลิฟต์ยิ่งตะลึงกับห้องทดลองใต้ดินที่มีความไฮเทคมาก ที่ผนังมีจอเล็กๆเป็นทีวีวงจรปิดมากมาย ทำให้รู้ความเป็นไปภายในวิทยาลัยประจิมแทบทุกจุด อาจารย์ เพี้ยนเล่าว่าเขาใช้เวลาสร้างที่นี่มานับปีกว่าจะสมบูรณ์แบบอย่างนี้ อู๊ดอยากรู้ว่าทำเพื่ออะไร แต่อาจารย์เพี้ยนบอกว่าอย่าเพิ่งถามให้ช่วยเอาต๋องนอนบนเตียงก่อน
"แผลลึก เลือดไหลไม่หยุดยังงี้ คงต้องเสี่ยงแล้ว" อาจารย์ เพี้ยนตรวจดูแล้วหนักใจ
ตัดสิน ใจเอาต๋องเข้าแคปซูลโปร่งใส มีรังสีฉายวาบๆรู้ทั้งรู้ว่าถ้าพลาดหมายถึงชีวิตต๋องแต่ไม่มีทางเลือก อาจารย์ เพี้ยนเช็กระดับรังสี คลื่นไฟฟ้าและชีพจร เครื่องทำงานแรงขึ้นๆจนโอเวอร์ เกิดไฟฟ้าช็อตแสงสว่างวาบขึ้นแล้วเครื่องดับลง เครื่องชีพจรร้องปี๊ด...เส้นกราฟหัวใจกลายเป็นเส้นตรง อู๊ดตกใจร้องไห้ต่อว่าอาจารย์เพี้ยน ไม่ทันไร เครื่องวัดชีพจรทำงาน เส้นกราฟเริ่มขยับขีดขึ้นลงจนสูงขึ้น อาจารย์เพี้ยนสะกิดให้อู๊ดดู แต่แล้วการทำงานทุกอย่างมันแรงขึ้น เร็วขึ้นจนเครื่องรวน เครื่องมือในห้องถูกคลื่นรบกวน จนในที่สุดระเบิดตูม อาจารย์เพี้ยนดึงอู๊ดหลบพัลวัน ทั้งสองตกตะลึงไม่รู้ว่าต๋องจะเป็นอย่างไรบ้าง
ooooooo
แก้วรุ้งวิ่งตามหาต๋องมาจนถึงสวนสาธารณะ เหมันต์ตามมาเตือนให้กลับบ้านเพราะดึกมากแล้ว พ่อแม่จะเป็นห่วง แต่แก้วรุ้งไม่ยอมจะหาต๋องให้เจอก่อน "โธ่ต๋อง แก้วขอโทษ แก้วไม่เคยรู้เลยว่าต๋องรู้สึกยังไง แก้วไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจต๋อง"
เหมันต์ เข้ามาปลอบและเช็ดน้ำตาให้ เขานึกขึ้นมาได้ว่าต๋องอาจจะไปในที่แห่งหนึ่ง ที่นั้นเป็นที่ที่ต๋องมักจะมาซ่อนตัวตอนอยู่บ้านเด็กกำพร้าเวลามีเรื่องกลัว หรือเสียใจ คือสนามเด็กเล่นที่นั่น ต๋องมักจะแอบอยู่ในถังลอด เหมันต์จะตามเจอและคอยปลอบใจ
"พี่เหมันต์รู้จักต๋องตั้งแต่เด็กแล้วหรือคะ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่สนิทกันแล้วล่ะ"
"อยู่ ใกล้พี่มีแต่อันตราย อยู่ห่างไว้ดีแล้ว เธอก็เหมือนกัน ...แก้วรุ้ง" เหมันต์เศร้า นึกถึงวันที่ต้องจากกับต๋อง แล้วชีวิตเขาก็ต้องเปลี่ยนไป
พลัน แก้วรุ้งเห็นต๋องผ่านไปจึงรีบวิ่งตามจนเจอ ต๋องท่าทางแปลกๆพูดกับเธอว่าเขามาลา แก้วรุ้งตกใจรีบดึงเขาไว้ ต๋องหันมากลายเป็นกินรีบีบคอเธอทันที เหมันต์พุ่งพรวดมาอย่างรวดเร็วประชิดตัวกินรี และบอกให้ปล่อยแก้วรุ้ง
"ผู้หญิงคนนี้จะทำให้เธอลำบาก"
"ผมไม่ยอมให้ใครทำร้ายแก้วรุ้ง" เหมันต์ต่อสู้กับกินรี
กินรี สู้แรงไม่ได้ เหมันต์ดึงแก้วรุ้งจะหนี อมรปรากฏตัวขึ้นขวางหน้า คลื่นพลังออกจากตัวอมรปะทะเหมันต์กระเด็นไป แล้วอมรหันมาดึงร่างแก้วรุ้งลอยเข้ามาหา เขาจิกกรงเล็บลงบนคอเธอจนเลือดไหลออกมาอย่างเจ็บปวด เหมันต์จะลุกขึ้นช่วยแต่ถูกอมรหันมาจ้องทำให้ปวดหัวอย่างรุนแรงดิ้นพราดๆ "นี่คือโทษของคนทรยศ"
"หยุด...ยะ อย่าทำอะไรแก้วรุ้ง" เหมันต์ยังห่วงแก้วรุ้ง
"ฮ่าๆๆ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย คนอ่อนแออย่างแกจะปกป้องใครได้...ความรักทำให้แกอ่อนแอ ฉันจะให้แกเห็นผู้หญิงคนนี้ตายไปต่อหน้าต่อตา แกจะได้โตเป็นผู้ใหญ่เสียที"
แก้ว รุ้งหวาดหวั่น อมรกำลังก้มลงจะดูดปากเธอ เหมันต์ กระเสือกกระสนจะไปช่วย ด้วยพลังความรักทำให้เขาระเบิดพลัง ออกมาปะทะอมรเซถอยหลัง แก้วรุ้งล้มลง เกิดประกายไฟควันคลุ้งไปทั่ว กินรีโผเข้าประคองอมร พอทุกอย่างสงบ เหมันต์กับแก้วรุ้งหายไปแล้ว อมรเจ็บใจ
"ความรักที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น ทำให้มันมีพลังขนาดนี้ เชียวรึ!..."
เหมันต์ บาดเจ็บหนักประคองกับแก้วรุ้งหนีมาจนมุมที่ริมน้ำ เหมันต์เป็นกังวลว่าจะหนีไม่พ้นอำนาจของอมร แก้วรุ้ง ก็บาดเจ็บเธอจึงบอกให้เหมันต์หนีไป ถ้าอยู่ด้วยกันจะตายทั้งคู่
"ใช่ เราจะตายทั้งคู่ไม่ได้ ต้องมีคนหนึ่งตาย เพื่อให้ อีกคนรอด"
แก้ว รุ้งงง เหมันต์พูดว่า ความตายเท่านั้นที่จะยุติเรื่อง ทั้งหมดได้ เขาทำท่าจะบีบคอเธอ แก้วรุ้งร้องลั่นด้วยความตกใจ อมรกับกินรีได้ยินเสียงรีบเหาะเข้ามา เห็นแก้วรุ้งตกน้ำไปต่อหน้า เหมันต์ยืนนิ่งหันมาที่ปากมีเลือดเปรอะ เขาพูดขึ้นว่า "เลือดของเธออยู่ในตัวผม"
อมรไม่อยากเชื่อ เหมันต์เข้ามาขอโทษและบอกว่าเขายังไม่อยากตาย ถึงเขาจะรักเธอมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมตายเพราะผู้หญิงคนเดียว...อมรอึ้งจ้องตาเหมันต์อ่านความคิด ก็เห็นภาพเหมันต์บีบคอแก้วรุ้ง เขายิ้มอย่างพอใจ "ฮ่าๆๆๆ
ในที่สุดแกก็คิดได้..."
คืน นั้น กระถินกระวนกระวายนอนไม่หลับ ภาพเธอ ประกบปากกับต๋องตามหลอกหลอนจนเธอต้องออกไปหาต๋องที่ร้านบะหมี่ เจอแป๊ะเล้งใส่ชุดหมีแพนด้าเสิร์ฟบะหมี่ก็เข้าใจว่าเป็นต๋อง จึงเข้ามาพูดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นห้ามบอกใครเด็ดขาด แป๊ะเล้งงงถอดหัวหมีออก กระถินตกใจรีบเดินหนีไปแต่แปลกใจ ว่าต๋องไปไหน...
วันรุ่งขึ้น ต๋องฟื้นขึ้นมาพบว่า ตัวเองนอนอยู่บนเตียงมีสายระโยงระยางอยู่บนหน้าอกและตามตัว จึงแกะออกไปรอบห้องงงๆ เพราะสภาพห้องยังเละจากแรงระเบิด เขารีบออกจากห้องมาที่ห้องทำอาหาร ร้องเรียกอู๊ด จู่ๆเครื่องปั่นก็ทำงาน ขึ้นมาทั้งที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก เขาสะดุ้งไปปัดแก้วน้ำตกแตก ต๋องลนลานจะเก็บแต่มันกลับประกอบร่างเป็นแก้วตามเดิม เขาตกใจมาก ไม่ทันไรอุปกรณ์ในห้องก็สั่นแล้วลอยขึ้นมาเอง เขายิ่งตกใจวิ่งออกจากห้องร้องว่าผีหลอก
กินรีเดินอยู่แถวนั้น ได้ยินเสียงแต่ไม่ทันเห็นตัว เพราะอาจารย์เพี้ยนมาช่วยล่อให้กินรีไปสนใจอย่างอื่น อู๊ดรีบไปรวบต๋องกลับเข้าไปในห้องคหกรรม ต๋องถามอู๊ดทำอะไร
"ก็ฉัน กลัวแกตาย ยายนั่นมันเป็นปีศาจ เมื่อคืนแกเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดีที่อาจารย์เพี้ยนช่วยไว้ นี่ก็ล่อยายแม่มดไป ถ้ายัยนั่นเจอแกเข้า แกแย่แน่"
ต๋องยิ่งงงว่าเกิดอะไรขึ้น อาจารย์เพี้ยนกลับเข้ามา จึงเป็นผู้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ต๋องยังท่าทางหวาดกลัวบอกว่า ในห้องนี้มีผี ของทุกอย่างลอยขึ้นมาเอง อาจารย์เพี้ยนจึงบอกว่า
"ไม่ใช่ผี แต่นี่คือพลังของเธอ...ต๋อง" อาจารย์เพี้ยนพา ต๋องกลับลงไปในห้องลับ ชี้ให้ดูเครื่องแคปซูล "จำเหตุการณ์
เมื่อ คืนได้มั้ย เธอโดนกินรีทำร้ายจนเสียชีวิต เครื่องฉายรังสีนี้ ช่วยชีวิตของเธอกลับมาอีกครั้ง และทำให้เธอมีพลังมากกว่า มนุษย์ปกติหลายพันเท่า พลังงานในตัวเธอทำให้เครื่องมือขัดข้องและพังเสียหายไปหมด"
ต๋องฟัง แล้วไม่อยากเชื่อ อู๊ดช่วยยืนยัน อาจารย์เพี้ยนจึงเล่าความหลัง "เธอไม่ใช่คนแรกที่ฟื้นจากความตาย เครื่องมือนี้เคยช่วยให้คนคนหนึ่งฟื้นคืนชีพมาแล้ว แต่ด้วยจิตใจที่ชั่วร้าย ทำให้เขากลายเป็นปีศาจ..."
ในอดีต ดร.ชาติเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง ค้นพบตัวยา ที่ทำให้เซลล์มะเร็งหยุดการเจริญเติบโต เขาจึงจะมอบสูตรยา นี้ให้กับหน่วยงานของรัฐไปรักษาผู้ป่วยทุกชนชั้น แต่อมรกลับโลภต้องการชื่อเสียงและเงินทอง กินรีเป็นทั้งผู้ช่วยและคนรักของอมรจึงช่วยกันสร้างสถานการณ์จะให้ชาติตายใน ห้องทดลองเหมือนเป็นอุบัติเหตุ จึงเปิดเครื่องฉายรังสี กดปุ่ม เดินเครื่องเต็มพลังหวังผลักชาติเข้าไปให้ร่างแหลกเป็นจุล แต่ชาติต่อสู้จนผลักอมรเข้าไปแทน ร่างอมรจึงโดนรังสีที่ตัวเอง เป็นคนเปิดทำลายร่างแหลกเป็นจุล แต่แล้วกินรีเป็นคนช่วยให้เลือดแก่อมรจึงสร้างร่างกลับคืนมาและมีพลังชั่ว ร้าย ตามฆ่าชาติและครอบครัว...
ooooooo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น