เหนือมนุษย์ ตอนที่6

พอทำแผลที่มือเสร็จ อมรเดินออกมา กระถินรีบเข้ามาถามว่ามือเป็นอย่างไรบ้าง อมรตอบว่าเจ็บแค่นี้ยังดีกว่าให้ชาติกัดลิ้นตัวเอง กระถินยิ่งปลื้มคิดว่าอมรเป็นคนดีจริงๆ

"เพื่อนที่ฉันรักที่สุดในชีวิต แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ" อมรพูดแล้วเดินไป

กระถิน ได้ยินคำว่าเพื่อน ตัดสินใจตามไปคว้าแขนอมรแล้วถาม "เดี๋ยวค่ะ ด็อกเตอร์ ด็อกเตอร์ทราบใช่มั้ยคะว่า ทำไมด็อกเตอร์ชาติถึงเป็นแบบนี้ เล่าให้กระถินฟังหน่อยนะคะ"

อมรทำเป็นชั่งใจ แล้วตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีต แต่ ไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย เขาเล่าว่าชาติเป็นเพื่อนรักที่ทำงานวิจัยมาด้วยกัน แต่แล้วเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นกับครอบครัวชาติตายหมดทั้งสามคนพ่อแม่ ลูก...แต่ความเป็นจริงแล้ว หลังจากที่อินทุกาตกหน้าผาไปแล้ว อมรกับกินรีก็เอาร่างชาติและเอมอรซึ่งตายแล้ว มาใส่ในรถยนต์ ทำทีเป็นรถตกเขาระเบิดทั้งคัน... อมรจัดงานศพให้ครอบครัวชาติอย่างสมเกียรติ แต่แล้วจู่ๆชาติก็ปรากฏตัวขึ้นกลางงานศพในสภาพคนเสียสติ ใบหน้าเหวอะหวะจากไฟลวก ร้องเรียกหาแต่ลูกกับเมีย...

"ตอนนั้นรถของ ชาติตกไปในทะเล ไม่มีใครหาศพทั้งสามคนพบ แล้วก็ไม่มีใครนึกอีกเช่นกันว่าชาติจะรอดมาได้ เขาโผล่ไปที่งานศพอย่างบ้าคลั่งอาละวาด"

"ท่านคงเสียใจมาก จนทำใจยอมรับความจริงไม่ได้"

อมรพยักหน้ารับ "นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็เป็นคนดูแลชาติ ออกค่ารักษาพยาบาลให้โดยตลอด"

กระถินมองอมรอย่างซาบซึ้งใจก่อนจะยกมือไหว้ "กระถินไม่รู้จะพูดยังไง ขอบคุณจริงๆค่ะที่ด็อกเตอร์ดูแลพ่อชาติเป็นอย่างดี"

"พ่อ? เธอเรียกชาติว่าพ่อเหรอ" อมรทำเป็นขมวดคิ้วถาม

"ค่ะ หนูคืออินทุกา ลูกสาวด็อกเตอร์ชาติที่ทุกคนว่าตายไปแล้ว"

"อะไรนะ!"

"หนู พูดความจริงนะคะ หนูยังมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้น การตายของแม่กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง ด็อกเตอร์ต้องช่วยหนูสืบหาความจริงนะคะ"

อมรครุ่นคิดแล้วยื่น เงื่อนไขให้กระถินพิสูจน์ว่าเป็น อินทุกาจริงๆ กระถินยอมทุกอย่าง...อมรพากระถินมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อตรวจดีเอ็น เอ อมรทำเป็นพูดกับกระถินว่า เขาถูกชะตากับเธอมาก เขาอยากให้เธอเป็นหลานของเขาจริงๆ กระถินเองก็มั่นใจเช่นนั้น...

วัน ต่อมา ขณะที่ต๋องกับอู๊ดนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหาร เหมันต์เดินเข้ามาสบตาต๋องแวบหนึ่งแล้วเดินผ่านไปเหมือนต๋องเป็นอากาศ อู๊ดเห็นแล้วหมั่นไส้แทน ที่เหมันต์ทำเหมือนลืมตัว ทั้งที่อดีตเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้ามากับต๋อง ยิ่งพอเห็นหยิบหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านยิ่งหมั่นไส้

"กินไม่ลงเว้ย ดูอดีตเพื่อนรักของแกสิไอ้ต๋อง มันมาโรงอาหารแทนที่มันจะกินข้าว ดันมานั่งอ่านหนังสือ เก๊กสร้างภาพ"

"ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าน่า" ต๋องไม่อยากให้อู๊ดว่าเหมันต์

"แต่ฉันไม่เคยเห็นไอ้เหมันต์มันกินอะไรเลยนะเว้ย แปลกว่ะ...ขนาดแฟนคลับมันเอาขนมมาป้อนถึงปาก มันยังไม่แตะเลยสักคำ"

"กลัวอ้วนมั้ง"

"ฉันว่ามันเหมือน...เหมือนในหนังที่เราดูกันน่ะ เรื่องอะไรนะ...ข้าคือ...ผีดูดเลือด..."

ไม่ทันที่อู๊ดจะพูดจบก็มีเศษเงินโยนลงตรงหน้า ต๋องสะดุ้งเงยหน้ามาเห็นเหมันต์อยู่ตรงหน้า "เฮ้ย! แกมายืนตรงนี้ได้ไง"

"ฉันว่าแกเก็บเศษเงินพวกนี้ไปซื้อวิตามินบำรุงสมองซะดีกว่ามานั่งนินทาให้ร้ายคนอื่น"

"แกจะเดือดร้อนทำไม แกเป็นผีดูดเลือดเหรอ" อู๊ด

ลอยหน้าล้อเล่นอย่างไม่ตั้งใจ

แต่ เหมันต์ต่อยหน้าอู๊ดโครม อู๊ดถลาหน้าไปจิ้มบนเค้กโต๊ะถัดไป ต๋องพุ่งเข้าต่อยเหมันต์ แต่เหมันต์หลบอย่างคล่องแคล่วไม่โดนซักหมัด สุดท้ายเหมันต์จับแขนต๋องบิดแล้วเหวี่ยงไปกองกับพื้นแถมพูดให้อายว่าแพ้แล้ว แถมไล่ไปให้พ้นหน้า ต๋องอายต้องลุกวิ่งหนีออกไป เหมันต์เดินหลบมาถอนใจอย่างเจ็บปวดที่ทำร้ายเพื่อนรัก

พอดีวันนี้ เป็นวันที่กระถินจะไปฟังผลการตรวจดีเอ็นเอ เธอจึงรีบออกจากวิทยาลัย ลูกกบวิ่งมาชวนไปหาอะไรกิน แต่กระถินไม่สนใจจะรีบไป พลันต๋องวิ่งมาชนอย่างจังจนเธอล้มลงแต่ต๋องยังวิ่งต่อไป ลูกกบโวยวายไล่หลังและบอกให้กระถินลุยเลย แต่กระถินกลับบอกว่า

"ไม่ต้อง วันนี้ฤกษ์ดี ฉันไม่อยากฆ่าใคร" พูดจบกระถินก็วิ่งไป ทำเอาลูกกบงง

มา ถึงโรงพยาบาล อมรกับกระถินนั่งตรงหน้าหมอรอฟังผลการตรวจดีเอ็นเอ อมรทำเป็นดีใจที่จะได้กระถินเป็นหลาน กระถินเองก็มั่นใจว่าเธอเป็นลูกของชาติ หมอหยิบเอกสารมาเปิดอ่าน ทั้งสองตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ "...ดีเอ็นเอของด็อกเตอร์ ชาติกับกระถิน ไม่ตรงกันเลย นั่นแสดงว่าทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด"

กระถินแทบไม่เชื่อหูตัวเอง "ทำไมเป็นแบบนี้ ไม่จริง ไม่!..."

กระถินวิ่งเตลิดออกไป อมรทำทีห่วงใยตะโกนตามหลังว่าอย่าเสียใจ...หมอตบมือชอบใจชมอมร "ขั้นเทพจริงๆค่ะ ด็อกเตอร์ ตีบทแตกซะ"

"เธอก็เหมือนกัน สุดยอดจริงๆ" อมรหันมายิ้มให้

หมอดึงหน้ากากออกกลายเป็นกินรี เธอลุกขึ้นกอดอมร "ป่านนี้นังเด็กกระถินคงหัวใจสลายไปแล้ว"

"ดี...มันจะได้เลิกวุ่นวายกับไอ้ชาติเสียที" อมรมองออกไปด้วยสายตาอำมหิต...

กระถิน วิ่งร้องไห้มาตามถนน ขึ้นมาบนสะพาน ร้องตะโกนระบายอารมณ์ออกไปทางแม่น้ำ "ทำไมสวรรค์ต้องเล่นตลกกับชีวิตฉันด้วย ทำให้ฉันมีความหวังแล้วดึงมันกลับไปง่ายๆอย่างนี้เหรอ ทำไมฉันไม่มีพ่อ ทำไม..."

จังหวะนั้น เสียงต๋องตะโกนออกมาว่า...ทำไม!...กระถินชะงักหันไปมอง เห็นต๋องยืนเกาะราวสะพานตะโกนอยู่เช่นกัน "ทำไมฉันถึงเกลียดแกไม่ลงเสียที ไอ้เหมันต์ ไอ้เพื่อนทรยศ"

"ไอ้โรคจิต!"

"ยัยกระทิง!"

"ล้อเลียนฉันทำไม ปัญญาอ่อน" กระถินโวย

"เธอสิ เลียนแบบฉัน ยัยเกรี๋ยน..." ต๋องโวยกลับ

กระถินโกรธพุ่งพรวดมาบีบคอต๋องเขย่าด้วยอารมณ์ พลุ่งพล่าน ต๋องแทบขาดใจใช้มือดึงหูกระถินจนเธอร้อง... "อ๊าย...ไอ้ต๋อง รังแกผู้หญิง"

"อย่าเลย ผู้ชายข้ามเพศ"

"ไอ้ปากหนอนเน่า" กระถินบีบคอต๋องแรงขึ้นโน้มลงมา

ต๋อง ร้องลั่นว่าเจ็บ ทันใด มีรถแล่นมาบีบแตรเสียงดัง แล้วคนขับก็ชะโงกหน้ามาโวย "โอ๊ย...พี่น้องคร๊าบ ไม่มีที่จู๋จี๋กันแล้วเหรอคร๊าบ...ถึงต้องมาจูบกันกลางถนน"

กระถิน กับต๋องชะงัก หน้าเหวอเด้งออกจากกัน ทำท่าสะอิดสะเอียนใส่กัน...จากนั้นกระถินมานั่งใต้สะพานถอนใจ ต๋องนั่งข้างๆแหย่ว่า "ทำหน้าเป็นยายแก่ แบกโลกทั้งโลกอยู่ได้"

กระถิน หันขวับมาจ้องที่ยังไม่ไปอีก ต๋องขยับเข้ามาใกล้แล้วถามว่าเธอไม่สบายใจเรื่องอะไร กระถินย้อนถามว่าเธอต้องบอกด้วยหรือแล้วก็จะลุกหนี ต๋องจึงพูดขึ้นว่า

"ไม่มีพ่อแล้วมันเป็นไง...ฉันได้ยินแว่วๆตอนเธอตะโกนน่ะ"

"คนอย่างนายไม่มีวันเข้าใจฉันหรอก" กระถินสะเทือนใจ

"ทำไม ฉันจะไม่เข้าใจเธอ ในเมื่อฉันเองก็ถูกเก็บมาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์เหมือนกัน...ถึงฉันจะไม่มี พ่อแม่เหมือนคนอื่นเค้า แต่ฉันก็มีป๊ากับแม่ที่เลี้ยงดูฉันมา เธอเองก็มียายบัวไม่ใช่เหรอ แล้วยายบัวไม่รักเธอเหรอ หรือว่ายายบัวยังดีกับเธอไม่พอ" ต๋องเห็นกระถินส่ายหน้าจึงว่า "โชคดีขนาดไหน ที่เธอมียายคอยรักเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้ แล้วทำไมยังจะต้องตะเกียกตะกายหาความรักที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนอีก ล่ะ"

กระถินแววตาอ่อนลง รู้สึกซึ้งใจที่ต๋องพูดได้กินใจ กำลังจะยิ้มให้แต่ต๋องดันปากเสียขึ้นมาอีก "เข้าใจก็ดีละ...ยัยหน้าปลาจวด..."

ต๋อง ลุกวิ่งหนีไปทันที กระถินโกรธลุกขึ้นโวย "กลับมาเดี๋ยวนี้นะ แกว่าใครหน้าปลาจวดหา...ไอ้บ้าต๋อง!! ฮึ ฉันนึกอยู่แล้ว คนอย่างนายพูดดีได้ไม่เกินนาทีหรอก...ไอ้ผู้ชายผีทะเล..."

ooooooo

จนป่านนี้ แก้วรุ้งยังหวาดผวากลัวคนมาฆ่า

จน กลายเป็นคนเครียดอยู่คนเดียว พอมีคนเดินสวนมาทำมือถือหล่น เธอก็ตกใจร้องกรี๊ดอย่างคนเสียสตินึกถึงตอนที่มือถือของเธอระเบิด ลูกกบผ่านมาเห็นรีบเข้ามา

ถามว่าเป็นอะไร แก้วรุ้งก้มหน้าก้มตาชี้มือไปที่มือถือร้องว่าระเบิดๆ ลูกกบพยายามบอกให้ดูใหม่ว่าเป็นเพียงมือถือธรรมดา แก้วรุ้งอึ้ง ประสาทจะเสียรีบวิ่งหนีไป

มาหยุดยืนหอบหน้าห้องดนตรี ร้องไห้ "แก้วจะเป็นบ้าอยู่แล้ว พูดกับใครก็ไม่ได้...พี่เหมันต์ พี่หายไปไหน แก้วอยากเห็นหน้าพี่ทุกๆนาที"

พลัน มีเสียงดนตรีดังมา แก้วรุ้งเดินเข้าไปดู เห็นเปียโนเล่นเพลงเองโดยปราศจากคนเล่นแล้วเพลงก็ดุเดือดขึ้น เธอตกใจกลัวร้องว่า "อย่าทำแบบนี้นะ!พี่เหมันต์ ฝีมือพี่ใช่มั้ย แก้วรู้นะ"

เสียงเปียโนหยุดลง เสียงประตูดังปัง แก้วรุ้งสะดุ้งหันมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น มีเงาวูบผ่านไป เธอหันหนีชน

กับ อกเหมันต์เข้าพอดี พอเงยหน้ามองก็สบตาเขา เธอผงะถอยออกแต่เหมันต์รวบตัวเธอไปกอดกระซิบ "คิดถึงฉันเหรอ ฮึๆ...ไม่ใช่สิ เธออยากเห็นหน้าฉันทุกนาที"

แก้วรุ้งโกรธทุบเขาอั้กแล้วผละตัวออก "คนบ้า ยังจะมาพูดเล่นอยู่ได้"

"ฉันไม่เคยเห็นอะไรในโลกนี้แน่นอนสักอย่าง อย่าจริงจังกับชีวิตนักเลย แม่สาวน้อยช่างฝัน" เหมันต์พูดแล้วจะเดินจากไป

แก้วรุ้งรีบพูดว่า เธอถูกผู้หญิงขู่ฆ่า "แค่นี้พอจะทำให้พี่จริงจังกับชีวิตขึ้นมาบ้างไหมคะ"

เหมันต์ ชะงักหันกลับมา แก้วรุ้งถามรุกว่าเขารู้ใช่ไหมว่าเป็นใคร เขาเข้ามาเขย่าตัวเธอให้หยุดถามจนเธอร้องว่าเจ็บ เขาจึงอ่อนลง "ถ้าฉันกับเธอไม่รู้จักกัน ทุกอย่างคงไม่เลวร้ายอย่างนี้"

"ทำไมพี่พูดอย่างนี้ แก้วทำให้พี่เดือดร้อนใช่มั้ยคะ"

"ฉันกำลังหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา" เหมันต์สะกดใจให้เข้มแข็งก่อนที่จะพูดออกไปว่า "ฉันจะลบความทรงจำระหว่างเธอกับฉันทิ้งให้หมด"

"พี่อยากทำอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ ทำให้เราเป็นคนไม่รู้จักกัน...พี่ใจร้าย" แก้วรุ้งจะร้องไห้เมื่อเห็นเหมันต์นิ่งไม่ตอบ จึงทุบอกเขา

เหมันต์ รวบตัวแก้วรุ้งมากอด เธอพยายามผลักไสด้วยความปวดร้าว ทันใด...ต๋องเข้ามากระชากเหมันต์แล้วต่อยเต็มหน้า และยังตามซ้ำอีกหลายหมัด โดยที่เหมันต์ไม่สู้ แก้วรุ้งตกใจเข้าไปดึงต๋องพาออกไป เหมันต์เลือดกบปาก มองตามด้วยความเจ็บปวดใจ...

อาจารย์เพี้ยนเสนอชื่อกระถินให้รับทุนไป ฝึกหัดเชฟที่ฝรั่งเศส อมรแปลกใจที่กระถินเรียนนิเทศศาสตร์ จะรับทุนไปฝึกหัดเป็นเชฟทำไม เขาเริ่มสงสัยอาจารย์เพี้ยนจะเกี่ยวข้องอะไรจึงลากตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อ พิสูจน์ว่าเป็นคนเดียว

กับชาติหรือเปล่า แต่พอมาถึงเห็นชาตินอนหันหลังอยู่บนเตียงคนไข้ อมรอยากดูใกล้ๆ พอดีพยาบาลเข้ามาพร้อมช่างไฟ

"ว้าย! พวกคุณมาทำอะไรในนี้คะ ตอนนี้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง กรุณาออกไปก่อนนะคะ"

อาจารย์ เพี้ยนโล่งใจ รอดไปได้อย่างหวุดหวิด...แต่อมรยังคาใจ กลับมาบ้านคุยกับกินรี พอดีเหมันต์เข้ามาขอต่อรอง จะไม่ฆ่าแก้วรุ้ง แต่จะลบความจำเธอ

"อานุภาพความรัก ทำให้ปีศาจมีหัวใจ" อมรพูดแทงใจ

"เปล่าครับ ผมไม่อยากฆ่าคนโดยไม่จำเป็น"

"แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไปสิ ไปลบความทรงจำ

แก้วรุ้งซะ ไม่ต้องฆ่าเธออีกแล้ว"

เหมันต์ ดีใจ ขอบคุณอมรแล้วรีบออกไป กินรีแปลกใจที่อมรยอมให้เหมันต์มีความรัก อมรตอบว่าเขาจะเอาแก้วรุ้งมาเป็นอาหาร ว่าแล้วก็หัวเราะสะใจ...

พอดึงต๋องออกมาจากเหมันต์แล้ว แก้วรุ้งก็ร้องไห้

จนต๋องตกใจรีบถามว่าเหมันต์รังแกหรือ แก้วรุ้งปฏิเสธแต่ยังคงร้องไห้อยู่ ต๋องจึงถามว่า "งั้นมันเรื่องอะไรล่ะครับ..."

"ต๋อง เธอจะรู้สึกยังไง ถ้ามีใครสักคนที่เธอแคร์มากๆเขาไม่อยากจดจำเธอ...มันทรมานเหลือเกิน กับการที่ต้องถูกใครสักคนสั่งให้...ลืม..." แก้วรุ้งโผกอดต๋องร้องไห้โฮ

ต๋อง พูดไม่ออกได้แต่ปลอบทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร ขนุนกับพวกผ่านมาเห็นแอบถ่ายคลิปไว้แล้วอัดรูปแปะประจานพาดหัวว่า...ร้อนรัก กลางสวน ดาววิทยาลัยกอดกับหนุ่มโจ๋งครึ่ม...นักศึกษารุมล้อมอ่านกันใหญ่ พอกระถินมาเห็นโกรธมากกระชากภาพออกมา ตามหาตัวต๋องเพื่อเอาเรื่องหาว่าคิดจะแบล็กเมล์แก้วรุ้ง พอต๋องได้เห็นภาพก็เข้าใจว่ากระถินอิจฉา

แก้วรุ้งเดินเข้ามาใน วิทยาลัย ต้องแปลกใจกับสายตาคนที่มอง จนขนุนกับพวกเข้ามาป่าวประกาศแกล้งให้แก้วรุ้งได้อาย แถมโทร.ไปบอกพ่อแม่แก้วรุ้งให้มาเห็นภาพด้วย เจษฎากับจีรนุชมาที่วิทยาลัย เจษฎาโกรธมากดุว่าแก้วรุ้งจนเธอเสียใจวิ่งหนีไป กระถิน ต๋อง และลูกกบวิ่งตามหา แก้วรุ้งเตลิดเปิดเปิงออกมานอกวิทยาลัยอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง เจอกลุ่มเด็กแว้นตีวงโอบล้อม เธอกลัวมาก ทันใด...เหมันต์มาปรากฏตัว อย่างเท่ ซัดพวกเด็กแว้นเผ่นแน่บ

แก้วรุ้งโผกอดเหมันต์อย่างขวัญ เสีย เหมันต์ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ เขากอดเธอด้วยความรักและห่วงใย เขาอุ้มเธอกระโดดข้ามตึกมาพักบนดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่ง แก้วรุ้งหยิบ ผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้ แล้วถามอย่างอ่อนโยน "พี่เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า"

เหมันต์จ้องตาแก้วรุ้งก่อนจะตัดใจพูดออกมา "ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ที่เธอจะก่อเรื่องวุ่นวายให้ฉัน"

"พี่ พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงคะ พี่จะเลิกคบแก้วแล้วใช่มั้ย ไม่ใช่สิ...เราไม่เคยคบกันเลยด้วยซ้ำ" แก้วรุ้งหัวเราะอย่างขมขื่นน้ำตาไหล "ที่พี่พูดมันหมายถึง พี่จะลบความทรงจำที่เรามีต่อกันใช่มั้ย ถ้าพี่ต้องการอย่างนั้น ก็จัดการเลยสิคะ...

แก้วพร้อมแล้ว"

แก้ว รุ้งน้อยใจเมื่อเห็นเหมันต์ยืนนิ่ง จึงหลับตาลงน้ำตาไหลรอให้เขาจัดการ เหมันต์ยกมือขึ้นเหมือนจะใช้พลังจิตลบความทรงจำของเธอ แต่แล้วกลายเป็นใช้มือประคองหน้าเธอแล้วจูบซับน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน แก้วรุ้งลืมตาขึ้นตะลึง เหมันต์สบตาเธอทั้งรักทั้งเจ็บปวดใจ

"เธอนึกหรือว่าฉันไม่เจ็บ ฉันไม่อยากคิดเลยว่า ฉันจะทนต่อสายตาว่างเปล่าของเธอได้ยังไง มันคงทรมานแทบขาดใจที่เธอไม่รู้จักฉันแล้ว"

"พี่เหมันต์..."

"แต่มันเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น"

แก้ว รุ้งถามว่าทางเลือกอะไร เหมันต์ส่ายหน้า "ช่างเถอะ ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจำฉันไม่ได้ เธออยากได้อะไรจากฉัน แก้วรุ้ง"

"แก้วขอให้คืนนี้เป็นคืนของเรา มีแต่พี่กับแก้ว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ปลดปล่อยหัวใจของเราให้ได้ทำตามปรารถนา แก้วขอแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น พี่คงให้แก้วได้ใช่มั้ยคะ" แก้วรุ้งดึงเหมันต์มาเที่ยวงานวัด ทั้งเล่นเครื่องเล่น ยิงปืนลม และกินสายไหมยิ้มแย้มอย่างมีความสุข...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น