ทุกคนที่กำลังตะลึงกับแผลที่มือเหมันต์และคำถามของแก้วรุ้งที่ว่า ทำไมเขาปล่อยให้เศษแก้วบาดมือ ทำไมไม่ใช้พลังจิต ต่างหันมามองอมรเป็นตาเดียวเมื่อเขาเข้ามาตอบคำถามแทนว่า "เพราะเหมันต์เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีอำนาจวิเศษอะไรอย่างที่หนูเข้าใจหรอก...มาอยู่นี่เองหรือไอ้ลูกชาย"
เหมันต์มองอมรเหมือนศัตรูมากกว่าคนในครอบครัวเดียวกัน จีรนุชกับเจษฎาตกใจเมื่อรู้ว่าเหมันต์เป็นลูกอมรเจ้าของวิทยาลัย อมรพาทุกคนไปที่ห้องทำงานของเขา ในห้องเต็มไปด้วยรูปถ่ายอมรกับเหมันต์ในทุกวัย และใบประกาศเกียรติคุณกับโล่ต่างๆ ดูเป็นห้องนักวิชาการ
"เหมันต์เป็นลูกบุญธรรมของผมเอง" อมรกล่าวเมื่อเห็นแก้วรุ้งหยิบรูปขึ้นมาดู
แก้วรุ้งพิจารณาทุกรูปด้วยความแปลกใจที่เหมันต์โตไปตามวัยแต่หน้าตาอมรไม่เปลี่ยนแปลงเลย จีรนุชจึงขอถามอายุ เหมันต์ตอบแบบกวนๆแทน "ก็ประมาณตาแก่อายุครึ่งศตวรรษ"
"ฮ้า! 50 ปีเหรอ ก็เท่าผมน่ะสิ ด็อกเตอร์มีเคล็ดลับอะไรดีๆบอกกันบ้างสิครับ" เจษฎาถาม
"แก่ไปตามวัยก็ยังดีกว่าความงามจอมปลอม ที่เบื้องหลังมีแต่ความโสมมแล้วก็คาวเลือด"
อมรถลึงตาใส่เหมันต์ กินรีเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบทว่า เหมันต์หมายถึงการทำศัลยกรรมแล้วชวนคุยถึงอาหารเสริมที่อมรผลิตขายเพื่อชะลอความแก่และเป็นยาอายุวัฒนะด้วย เจษฎากับจีรนุชท่าทางสนใจ...พอทุกคนกลับไป อมรก็หันมาเล่นงานเหมันต์อย่างหนัก กินรีเข้ามาห้าม อมรโกรธหาว่าเพราะกินรีให้ท้าย เหมันต์ถึงกล้าปากดีกับเขา อมรสั่งเฉียบขาดให้เหมันต์ไปจัดการเก็บแก้วรุ้งเสียเพราะรู้ความลับปีศาจ ถ้าไม่ทำเขาจะจัดการเอง เหมันต์เครียดลำบากใจ...
จากการที่ต๋องเห็นกระถินพูดกับงูได้จนตกใจเป็นลมไป ฟื้นขึ้นมาเล่าให้ใครฟังไม่มีใครเชื่อจึงชวนอู๊ดไปพิสูจน์ พอเห็นกระถินกับลูกกบจับแก๊งผลไม้รวมมามัดมือสอบสวนในโรงยิมและตั้งกล้องถ่ายเพื่อเก็บคำสารภาพไว้เป็นหลักฐาน ก็ตามมาแอบดูแต่เข้าใจว่ากระถินรังแกขนุนและพวก ลูกกบขู่ว่าถ้าไม่ตอบตามความเป็นจริงจะถูกเขาจูบ ขนุนร้องกรี๊ดๆต๋องจะเข้าไปช่วยแต่ถูกอู๊ดรั้งไว้ให้รอดูไปก่อน
กระถินตั้งคำถามแรกถามว่า จริงหรือไม่ที่ขนุนใช้เงินซื้อลิ้นจี่กับลำไยมาเป็นเพื่อน สองสาวหลุดปากว่าจริง กระถินถามอีกว่า จริงไหมที่ขนุนอยากดังจนตัวสั่นจึงแกล้งแก้วรุ้งที่เด่นกว่า ขนุนถูกแทงใจดำโวยว่าเธอต่างหากที่เด่นกว่าแก้วรุ้ง ลูกกบยื่นหน้ามาจะจูบ ขนุนร้องให้คนช่วย ต๋องทนไม่ไหว ตะโกนมาจากบนอัฒจันทร์ในมาดฮีโร่สวมแว่นดำมีผ้าคลุมผูกคอ ไฟสาดส่องทำให้กระถินมองไม่ชัดว่าเป็นใคร
"หยุดรังแกคนอ่อนแอได้แล้ว"
"แล้วนายเป็นใคร มาทำบ้าอะไรที่นี่ นี่หลุดจากโรงบาลบ้ามารึเปล่า" กระถินถามกลับไป
ต๋องหัวเราะฮึๆแล้วส่งสัญญาณให้อู๊ดเปิดปิดไฟในโรงยิมเหมือนเขาแสดงพลังอำนาจ กระถินสงสัยกระโดดตีลังกาตัวลอยไปยืนตรงหน้าต๋อง แล้วกระชากแว่นดำจากหน้าต๋องออก
"ไอ้โรคจิต" กระถินกระชากคอเสื้อต๋องทันที
อู๊ดได้ยินเสียงร้องของต๋องก็รู้ว่าแย่แล้ว ต๋องร้องขอชีวิต ขนุนโวยวายด่าว่ากระถินและเอาพ่อมาขู่ กระถินไม่กลัว แต่พอถูกขนุนด่าว่าเป็นลูกกำพร้าไม่มีพ่อแม่สั่งสอนเท่านั้น กระถินก็ปรี๊ดโกรธจนลืมตัว พลังในตัวทำให้เกิดลมกระโชกอย่างแรงจนทุกคนปลิว ทั้งที่อยู่ในโรงยิมไม่มีหน้าต่าง ต๋องเห็นแสงสีรุ้งบนหัวกระถินยิ่งตกใจกลัว สะบัดตัวหนีหล่นจากอัฒจันทร์มาทับลูกกบร้องลั่นจะเล่นงาน แต่ต๋องกลับเตือนลูกกบ
"บรรยากาศมาคุอย่างนี้ รักษาชีวิตแกให้รอดก่อนเถอะ ไอ้ลูกหมา"
ต๋องวิ่งหนีมาชนกับอู๊ดจึงบอกให้เลิกเล่นไฟได้แล้ว อู๊ดตอบว่าเขายืนอยู่ตรงนี้จะไปเปิดปิดสวิตช์ไฟได้อย่างไร... กระถินยังโกรธใช้พลังจิตทำให้ลูกวอลเล่ย์ลอยมาอัดใส่ขนุนกับพวกเป็นสิบๆลูก ทุกคนพากันวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง จนกระถินหมดแรงสงบลง ลูกกบไม่รู้ว่าทุกอย่างเกิดจากกระถิน รีบมาประคองกระถินวิ่งออกไปจากโรงยิม แก้วรุ้งวิ่งมาเจอ
"กระถินมาอยู่นี่เอง เอ๊ะ กระถินเป็นอะไรทำไมหน้าซีดจัง"
"แก้วไม่รู้อะไร เกิดเหตุประหลาดในโรงยิมด้วยล่ะ อยู่ๆลูกวอลเล่ย์ก็ลอยไปทุ่มหัวพวกยัยผลไม้เน่าได้เอง บรึ๋ย...ทั้งสยองปนสะใจ" ลูกกบเล่าเรื่องตื่นเต้น
ลูกกบหาว่าเจ้าที่คงแรง พอขนุนว่ากระถินเรื่องพ่อแม่ ก็เกิดเรื่องเลย กระถินปรามลูกกบให้หยุดพูด "ฉันมีพ่อแม่แล้วท่านไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน ท่านอยู่กับฉันตลอดเวลา"
กระถินจะโชว์สร้อยพระนาคปรก จึงรู้ว่ามันหลุดหาย ไปก็ตกใจ มันหล่นหายไปตั้งแต่ตอนที่เจองูกับต๋อง ชายนิรนามคนที่เคยอุ้มกระถินไปส่งบ้านครั้งก่อนเก็บสร้อยได้ ท่าทางเขาดูเพี้ยนๆจึงถูกเรียกว่า...อาจารย์เพี้ยน กระถินกับเพื่อนช่วยกันค้นหาไม่เจอ กระถินเศร้าเสียใจมาร้องไห้ที่ริมสระน้ำ รำพันว่า "พ่อจ๋า แม่จ๋า กระถินไม่เอาไหน ของของพ่อแม่ กระถินก็รักษาไม่ได้"
ขณะที่กระถินฟุบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ก็รู้สึกว่ามีคนมายืนจ้องอยู่จึงเงยหน้ามอง เห็นตัวมาสคอตเป็นเพนกวินยืนโบกมือให้ก็ยิ้มออกมา เพนกวินทำท่าตลกๆให้เธอขำจนลืมเรื่องเศร้า กระถินขอบคุณ "ไม่น่าเชื่อเลยนะ คุยกับคุณแค่แป๊บเดียว ทำไมฉันรู้สึกสบายใจอบอุ่นเหมือนเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเลย"
"ไม่น้า คุณหนูจะมีญาติเป็นนกเพนกวินได้ไง ฮิๆๆ นี่ๆเปิดถุงให้หน่อยสิ" เพนกวินชี้ที่ถุงห้อยคอ กระถินล้วงหยิบสิ่งของออกมาเป็นพระนาคปรกก็ดีใจ เพนกวินบอกว่าเขาเก็บได้ เขาให้เธอ กระถินโผกอดเพนกวิน
"โอ๊ย...กระถินกำลังหาสร้อยเส้นนี้อยู่เลย นี่ของสำคัญที่สุดในชีวิตกระถินเลยนะ พ่อจ๋าแม่จ๋า อย่าทิ้งกระถินไป อีกนะ" กระถินถอยออกก้มดูสร้อยพระ แต่พอเงยหน้ามาเพนกวินหายไป
กระถินวิ่งร้องเรียกเพนกวิน เห็นเขากระโดดขึ้นรถสองแถวโบกมือให้เธอ แก้วรุ้งกับลูกกบตามมาถึงได้ยินเพนกวินตะโกนบอกกระถินให้สวมสร้อยติดตัวอย่าถอดเด็ดขาด กระถินอยากรู้มากว่าเขาเป็นใคร...ในรถ เพนกวินถอดหัวออก เขาคืออาจารย์เพี้ยนที่คอยปกป้องกระถิน
ooooooo
ในบ้าน ยายบัวรู้สึกเหมือนมีคนเดินผ่านไปก็คิดว่ากระถินกลับมาแล้ว จึงร้องเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินออกมาดูหน้าบ้าน กระถินโผล่พรวดมากอดทำให้ ยายบัวสะดุ้งอุทานคำตลกๆออกมา กระถินกอดอ้อนยายบัว "โอ๋ๆ รักดอกจึงหยอกเล่น..."
กระถินพาแก้วรุ้งกับลูกกบมาด้วย ทั้งสองถือของพะรุงพะรัง ยายบัวจึงถามว่าจะไปไหนกัน กระถินตอบว่าเธอเพิ่งกลับกันมายายบัวว่า "อย่ามาอำ ยายเห็นเราออกมาจากบ้าน จึงเดินตามออกมานี่ไง"
"ตาฝาดแล้วยาย เราสามคนเพิ่งมาถึง ยังไม่ได้เข้าบ้านเลย" ลูกกบรีบบอก
ยายบัวแปลกใจแล้วเมื่อกี้ใครที่อยู่ในบ้าน กระถินบอกยายบัวว่าเพื่อนๆจะมาค้างที่บ้านเพราะมีงานต้องทำ ทุกคนพากันเข้าบ้าน เหมันต์ก้าวออกมาจากความมืดท่ามกลางลมพายุ แววตาเขาเศร้าดูน่ากลัว...และในคืนเดียวกัน ต๋องยังไม่เลิกพิสูจน์ว่ากระถินไม่ใช่คนธรรมดา เขาพาอู๊ดแอบเข้ามาในบ้านกระถิน จึงได้ยินกระถินเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าทำไมเธอถึงชื่อกระถิน
"เพราะยายไปเจอฉันใต้ต้นกระถินน่ะสิ ฉันก็เลยชื่อกระถิน"
ต๋องแอบหัวเราะ "ดีนะที่เจอใต้ต้นกระถิน ถ้าเจอใต้ต้นมะคำดีควายจะชื่ออะไร"
กระถินได้ยินเสียงหัวเราะนอกหน้าต่างก็แปลกใจเดินไปชะโงกดู อู๊ดรีบทำเสียงแมวร้อง แก้วรุ้งชวนให้มาทำงานต่อ เหมันต์เห็นต๋องกับอู๊ดจึงทำให้ทั้งสองหล่นจากต้นไม้ ทั้งสองไม่กล้าร้อง ต๋องขอให้อู๊ดคอยดูเขาจะเอางูไปโยนในห้องกระถินเพื่อให้ได้เห็นกระถินคุยกับงู โดยงูที่เขาเอามาเป็นงูยางแต่ดูเหมือนจริงมาก ต๋องล้วงหยิบจากในถุงที่สะพายมาด้วยออกมาให้อู๊ดดู อู๊ดถึงกับผงะ "มะเหมือน...เหมือนมาก เหมือนมากเกินไปแล้ว เฮ้ย! นี่มันงูจริง"
"ไอ้บ้า ไม่ต้องอินขนาดนี้ก็ได้" ต๋องเห็นอู๊ดวิ่งหนีจึงหันมองงูในมือพอเห็นมันเป็นงูจริงกำลังพันมือเขา ก็ร้องลั่นวิ่งตามอู๊ดไปให้ช่วยเอาออก
กระถินกับพวกได้ยินเสียงร้อง วิ่งออกมาดู เจอกับยายบัวที่หน้าบ้าน ต่างบอกว่าเสียงมาจากในสวน จึงวิ่งตามไปดู แก้วรุ้งหกล้มไม่มีใครเห็น เธอจึงเดินกะเผลกอยู่คนเดียวตามไม่ทัน กระถินกับพวกวิ่งมาถึงเห็นต๋องซึ่งงูหล่นจากมือแล้ว ก็โวยวายใส่ ต๋องเอาแต่ร้องว่างูๆ กระถินก้มมองแล้วหยิบขึ้นมา ต๋องร้อง "นั่นไง ยัยกระทิงจับงูหน้าตาเฉย ยัยกระทิงเป็นแม่มด"
ต๋องคว้ากล้องจากอู๊ดมาถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ทุกคนมองดูสิ่งที่กระถินหยิบขึ้นมาเป็นตุ๊กตานกฮูก กระถินปาใส่ต๋องเขาแปลกใจ "เฮ้ย! เป็นไปได้ไง เมื่อกี้ยังเป็นงูอยู่เลย"
กระถินจะเอาเรื่องต๋องที่บุกเข้ามาในบ้านเธอ อู๊ดช่วยเอาตัวรอดด้วยการบอกว่าต๋องต้องการเอาตุ๊กตานกฮูกมาฝากกระถิน ต๋องหน้าเหวอแต่รีบรับมุข บอกว่าเป็นการขอบใจที่คอยทำให้เขาเจ็บตัว มีแต่เรื่องทุกครั้งที่เจอเธอ
"อีตาบ้า นายมาขอบคุณหรือมาต่อว่าฉันเนี่ย"
ต๋องเหงื่อแตกควักผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ แต่มันกลายเป็นกางเกงในของยายบัวตัวใหญ่มาก ยายบัวร้องว่านั่นของเธอ กระถินหยิบไม้ไล่ตีต๋องหาว่าลามกโรคจิตไม่หาย ต๋องกับอู๊ดวิ่งหนีกระเจิง...หารู้ไม่ว่าทุกอย่างที่กลับกลายเกิดจากอำนาจของเหมันต์ที่เขาไม่ต้องการให้ต๋องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แก้วรุ้งเดินไม่ไหวกะเผลกกลับมานั่งในบ้าน ถือยาจะมานวดขา เหมันต์ย่องมาด้านหลังทำท่าจะบีบคอเธอ พอดีเธอฮัมเพลงที่เขาเคยเป่าแซ็กโซโฟนวันที่ช่วยเธอจากตึกร้าง เขาจึงชะงักใจอ่อนยวบทำร้ายเธอไม่ลง และเกิดสงสารที่เธอบาดเจ็บ จึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดตาเธอไว้ จากนั้นก็มาใส่ยานวดขาให้เธอ แก้วรุ้งคิดว่าเป็นกระถิน
"ขอบใจนะกระถิน กระถินดีกับแก้วจัง ไม่เหมือนใครบางคน เขาช่วยชีวิตแก้วแต่ก็โกหกแก้ว แก้วดูไม่ออกจริงๆว่าเขารู้สึกยังไงกับแก้วกันแน่ แต่ไม่ว่าจะยังไง แก้วก็อยากจะบอกพี่เหมันต์ว่า แก้วขอบคุณ ขอบคุณจากใจจริง"
เหมันต์รู้สึกแปลบปลาบในใจ พลันมีเสียงกระถินดังมา เขาจึงรีบหลบออกไป กระถินเข้ามาเห็นแก้วรุ้งมีผ้าผูกตานั่งอยู่คนเดียวก็ถามอย่างแปลกใจ แก้วรุ้งเองก็นึกว่ากระถินทำ ต่างคนต่างแปลกใจ...ที่นอกบ้านในความมืด เหมันต์ยืนมองมือตัวเองแล้วพึมพำว่า "ฉันไม่ใช่เจ้าชายของเธอ ฉันปกป้องเธอไม่ได้เลย แก้วรุ้ง...มือนี้เคยช่วยเธอ แต่ต่อไปนี้ มือนี้จะไว้ใช้ฆ่าเธอ"
เหมันต์เดินซึมเศร้ากลับมาในซอยบ้าน เผอิญชนกับแนน นักศึกษารุ่นน้องที่คลั่งไคล้เขา แนนดีใจกระโดดเกาะแขนเขา เหมันต์เตือนให้แนนกลับบ้านแล้วเดินอย่างรวดเร็วออกไป แนนเห็นกระเป๋าสตางค์เหมันต์ตกอยู่จึงเก็บตามไปคืน ทันกันที่หน้าบ้าน เหมันต์รีบดันให้แนนกลับไปก่อนที่อมรจะออกมาเห็น แต่ไม่ทันเสียแล้ว อมรออกมาทักทาย แนนยิ่งตื่นเต้นวิ่งไปสวัสดีอมร ดีใจที่ได้เจอคนดัง อมรจึงชวนเข้าไปทานข้าวในบ้าน เหมันต์รีบห้ามบอกให้แนนกลับบ้านแต่อมรใช้พลังสะกดแนนให้เดินเข้าบ้าน เหมันต์จะขวาง อมรหันมาจ้อง
"ให้ฉันกินอาหารเสร็จก่อนสิ ค่อยพาไปส่ง...รู้หน้าที่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆๆ"
เหมันต์เจ็บปวดใจที่ช่วยอะไรไม่ได้ร้องสุดเสียง "ทำไม ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วย ทำไม"
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น กระถินลุกมาทำข้าวต้มให้ทุกคนทาน แต่มันไม่เอาไหนจนทุกคนต้องบ้วนทิ้ง ลูกกบว่ากระถินน่าจะไปโบกปูน ซ่อมเครื่องมากกว่าทำอาหาร แต่แก้วรุ้งเตือนว่าอีกหน่อยกระถินแต่งงานก็ต้องทำอาหาร กระถินประกาศว่า คนที่จะมาแต่งกับเธอต้องทำกับข้าวเป็น ยายบัวนึกได้พูดโพล่งออกมาว่า เนื้อคู่ กระถินคือต๋องลูกร้านบะหมี่ กระถินอายรีบวิ่งหนีขึ้นห้อง
มาเก็บกระเป๋าเตรียมไปเรียน พลันสะดุดล้มหน้าจูบเอาตุ๊กตานกฮูกที่ต๋องทิ้งไว้ให้ นึกได้ร้องอ๊่ายๆอย่างกับจูบกับต๋อง "อี๋...ไอ้โรคจิตหน้านกฮูก นี่ฉันเสียจูบให้นายได้ไงเนี่ย แหวะๆ"
แก้วรุ้งขึ้นมาตาม กระถินกระซิบบอกตุ๊กตาว่ากลับมาจะคิดบัญชี แล้วโยนโครมไปบนเตียง คว้ากระเป๋าตามแก้วรุ้งออกไป...
ได้รับคำสั่งให้ตามสืบว่าอินทุกาตายไปแล้วจริงหรือไม่ กินรีจึงมาที่เก็บกระดูกของอินทุกา ชโรดม มีภาพเด็กหญิงวัยห้าขวบติดอยู่ เธอยืนครุ่นคิดถึงวันที่อินทุกาตกหน้าผาไปจะรอดได้อย่างไร แต่แล้วประสาทสัมผัสทำให้เธอหันขวับมามองที่เก็บกระดูกถัดไป เป็นชื่อ เอมอร ชโรดม ที่น่าสงสัยคือมีดอกไม้มาวางพร้อมธูปที่ยังไม่ดับ แต่ของอินทุกากลับไม่มี
"ทำไมเซ่นไหว้แต่แม่ของอินทุกาล่ะ หรือ...อินทุกายังไม่ตาย..." พลันกินรีรู้สึกมีเงาผ่าน
กินรีเคลื่อนกายอย่างรวดเร็วไปที่เงานั้น มองไปรอบๆทุกอย่างว่างเปล่า จึงเดินกลับออกไป ไม่ทันไร ผนังกำแพงถูกดันออก ชายนิรนามเปิดผ้าที่บังตัวออกจะเดินไป กินรีย้อนกลับมาเอามีดจ่อถามว่าเขาเป็นใคร ชายนิรนามไม่ตอบแต่ต่อสู้กับกินรีด้วยพลังเหนือมนุษย์ เหาะเหินสู้กันอย่างดุเดือด ชายนิรนามพลาดล้มฟุบลง กินรีจะมาดูหน้าว่าเป็นใคร แต่กลับถูกชายนิรนามพ่นสเปรย์พริกไทยใส่หน้า ก่อนจะหนีหายไป กินรีเคียดแค้นฝากไว้ก่อน...
ยังไม่ละความพยายามจะเป็นฮีโร่ให้ได้ ต๋องพยายามฝึกกระบวนการต่อสู้ตามแบบกังฟู มีอู๊ดคอยเอาใจช่วย แต่ไม่วายต้องวิ่งหนีเด็กวัยสิบขวบที่ไล่แทงด้วยมีดดาบพลาสติก แป๊ะเล้งกับสำลีปลอบใจว่าไม่เป็นฮีโร่ก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเขาก็ยกกิจการร้านบะหมี่ให้สืบทอด แต่ขอให้ไปเรียนคหกรรมกับอาจารย์ พงศธรที่วิทยาลัยประจิมก่อนเพื่อเพิ่มความรู้ ต๋องกับอู๊ดเซ็งที่ต้องมาเรียนคณะที่ผู้หญิงเขาเรียนกันเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งพอมาเจอกับอาจารย์เพี้ยน หรืออาจารย์พงศธร ยิ่งอยากจะถอนตัวแต่ไม่ทัน อาจารย์เพี้ยนถามต๋องว่าอะไรทำให้มาเรียน
"ผมอยากต้มมาม่าให้อร่อยที่สุดในโลก...ใช่ มีคนๆนึงว่าผมไม่เอาไหน แค่ต้มมาม่ายังไม่อร่อยเลย ผมตั้งใจจะเอาชนะคำทายนี้ให้ได้" ต๋องบอกอย่างมุ่งมั่น...
ต๋องนั่งนึกถึงความหลังวัยเด็กประมาณแปดขวบตอนอยู่บ้านเด็กกำพร้า เพื่อนรักที่ชื่อเหมันต์มักจะแอบต้มมาม่าให้กิน เหมันต์เก่งทุกอย่างทั้งหมัดมวยและการเรียน ต๋องขอให้ เขาสอนมวยให้บ้าง เหมันต์กลับบอกให้ไปหัดต้มมาม่าให้อร่อยก่อนแล้วจะสอนมวยให้ เหมันต์ให้รูปพร้อมลายเซ็นต๋องไว้ก่อนจะแยกย้ายกันออกจากบ้านเด็กกำพร้า ต๋องเก็บภาพนั้นติดตัวไว้เสมอ หวังจะได้เจอเพื่อนรักอีก "ป่านนี้นายคงเรียนอยู่เมืองนอก แล้วลืมเพื่อนคนนี้ไปแล้วมั้ง"
ต๋องมองภาพเหม่อจนเดินพลาดตกบันไดหงายหลังจะหัวฟาด เหมันต์เล่นบาสอยู่ได้ยินเสียงต๋องร้องก็เขวี้ยงลูกบาสมารองรับหัวต๋องไว้ ต๋องยกมือไหว้ "ลูกบาสช่วยชีวิตแท้ๆ..."
เหมันต์หลบอยู่มุมหนึ่ง พอดีต๋องเงยหน้ามองไปที่กระจกเห็นเงาเหมันต์ก็จำได้ร้องเรียก เหมันต์รีบเดินหนี ต๋องวิ่งมาขวางหน้า "เหมันต์...นายจริงๆด้วย"
เหมันต์เมินหน้าเดินหนี ต๋องดึงไหล่ให้หันมาแล้วพูดด้วยความดีใจ "ไม่อยากเชื่อว่าเราจะได้เจอกันอีก นี่ฉันเพิ่งดูรูปเก่าเราอยู่เลย...จำได้ไหม นายเคยสัญญาจะสอนต่อยมวยให้ฉัน"
เหมันต์มองภาพแล้วข่มใจซ่อนความรู้สึก เงยหน้าบอกต๋อง "ฉันไม่เคยรู้จักนาย"
"ฮึ นี่นายจำฉันไม่ได้เหรอ ต๋องไง เราชอบแอบต้มมาม่ากันที่บ้านเด็กกำพร้า..."
"ไม่รู้จักก็ไม่รู้จัก" เหมันต์ตะคอกขัดขึ้นมา
ต๋องเสียใจด่าว่าเหมันต์ไปเป็นลูกเศรษฐีแล้วลืมกำพืดตัวเอง เหมันต์โกรธชกเปรี้ยงเข้าที่หน้าต๋อง ต๋องชกสวน แต่เหมันต์หลบทัน มือต๋องไปกระแทกตาข่ายร้องโอดโอย เหมันต์ ตามมาชกซ้ำอีกหลายหมัด แก้วรุ้งเดินมาเห็นจึงร้องห้าม "ว้าย หยุดนะ อย่าทำเขา"
เหมันต์ตะคอกใส่ต๋องว่าคนอย่างนี้ไม่สมควรเป็นเพื่อนเขา ต๋องเสียใจทรุดลงกับพื้นหมดสภาพ แก้วรุ้งปราดมาตบหน้าเหมันต์ แต่เขาจับมือเธอไว้ทัน แก้วรุ้งว่าเขาอันธพาล เหมันต์ย้อนกลับว่าเพิ่งรู้หรือ แล้วสะบัดมือแก้วรุ้งออกก่อนจะเดินไป แก้วรุ้งเสียใจตะโกนตามหลังว่า
"พี่เหมันต์บ้า...คุณ คุณเป็นอะไรมากมั้ย" แก้วรุ้งหันมาดูต๋องซึ่งหมดสติไปแล้ว...
แก้วรุ้งเช็ดทำแผลให้จนต๋องฟื้นขึ้นมา เขาเห็นแก้วรุ้งก็ทักว่านางฟ้า แก้วรุ้งยิ้มให้และบอกว่าเธอชื่อแก้วรุ้งไม่ใช่ นางฟ้า ต๋องหลงใหลความอ่อนหวานของแก้วรุ้งทันทีรีบแนะนำตัวว่าเขาอยู่ปีหนึ่งคหกรรม แก้วรุ้งทำหน้าอมยิ้ม ต๋องเข้าใจรีบพูดว่า
"อ้าว คุณ นี่มันยุคเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์แล้ว สิทธิชายไทยก็น่าจะเท่าหญิงไทยแล้วนะฮะ...ผมจะได้ทำกับข้าวให้คุณทานไง" ต๋องยื่นหน้ามาทำเจ้าชู้ใส่
แก้วรุ้งตกใจสาดแอลกอฮอล์ในมือใส่แผลที่หน้าต๋อง เขาร้องจ๊ากด้วยความแสบ กระถินกำลังส่องกล้องมองไปรอบวิทยาลัย เห็นแก้วรุ้งทำแผลให้ต๋อง สายตาต๋องหยาดเยิ้มมองแก้วรุ้ง ก็เจ็บจี๊ดๆในใจอย่างบอกไม่ถูก รีบหาวิธีพลางตัว
ย่องเข้าไปดูใกล้ๆ พอได้ยินคำเลี่ยนๆที่ต๋องใช้จีบแก้วรุ้งก็ทน ไม่ไหว โผล่ออกมาทำเสียงล้อ "ผมไม่สบาย ป่วยเป็นโรคไตหาหัวจาม ตามหาหัวใจ ฮ่าๆๆ จะอ้วก"
"ยัยกระทิง! นี่เธอจะมากไปแล้วนะ"
"อะ ยังน้อยไป ทั้งภาพและเสียงที่สุดแสนจะน้ำเน่า อยู่ในนี้หมดแล้ว" กระถินชูกล้อง
ต๋องโวยหาว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจะแจ้งความ กระถินท้า "เอาซี้ นักศึกษาทุกคนจะได้เห็นวิธีจีบหญิงที่สุดแสนเชย ชวนคลื่นไส้ของนาย"
ต๋องโกรธจะแย่งกล้องคืน กระถินต่อรองให้เลิกยุ่งกับแก้วรุ้ง ต๋องไม่ยอมประกาศว่าเขาชอบแก้วรุ้ง "ฉันขอสาบานไว้เลย เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายในโลกนี้ที่ฉันจะนึกถึง"
กระถินเจ็บจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก พลันมีเสียงไซเรนตำรวจดังเข้ามาในวิทยาลัย...มีการฆ่าตัวตายในหอพักหญิง กระถิน แก้วรุ้ง ต๋อง และอู๊ดวิ่งเข้ามาดู เห็นแนนนอนตายในห้องน้ำ ที่ข้อมือมีรอยกรีดเลือดไหลนองพื้น มีมีดโกนและจดหมายฉบับหนึ่งตกอยู่ข้างศพ เจษฎามาทำคดีนี้ ต๋องเห็นเลือดถึงกับเป็นลม แก้วรุ้งเองก็ถึงกับเซ กระถินประคองพาออกไป อมรเข้ามาพร้อมกับกินรีและเหมันต์ ฟังตำรวจสรุปคดีแล้วอมรก็แสดงความเสียใจแทนพ่อแม่ของแนน เหมันต์ฟังแล้วกัดกราม กำหมัดแน่น เกลียดอมรเข้าไส้ที่โกหก เดินหนีไปทันที...
ooooooo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น