เซียนพระถูกอมรฆ่าปิดปากไปเรียบร้อยทำให้ กระถินไม่สามารถสืบหาความจริงได้...ด้านอาจารย์ เพี้ยนติดตั้งจานดาวเทียมเพื่อรับสัญญาณทั่วโลกอีกครั้งด้วยความหวาดหวั่น ของทุกคน เพราะครั้งที่แล้ว ทีวีระเบิดหวิดทำให้ไฟไหม้บ้าน แต่แล้วพอเสียบปลั๊ก ทีวีจอดำสนิท อาจารย์เพี้ยนคอตกผิดหวัง สักพัก ต๋องชี้ไปที่ทีวีท่าทางดีใจ "ทุกคนดูนั่น!"
ภาพวงจรปิดของทุกคนปรากฏขึ้นบนจอทีวี เครื่องรับสัญญาณใช้ได้ อาจารย์เพี้ยนดีใจอย่างมาก...
เช้า วันใหม่ แก้วรุ้งยังเสียใจที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเหมันต์เลย เหมันต์กลับเป็นคนปกติ เขามาเคาะประตูเรียกแล้วพูดแหย่เธอเหมือนรู้ทัน "นั่งใจลอยคิดถึงฉันอยู่หรือไง"
"คนไร้หัวใจอย่ามายุ่งกับแก้ว แก้วเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย บอกรักผู้ชายก่อน" แก้วรุ้งโวย
"ผู้หญิงที่บอกรักฉันก่อนอย่างเธอ มีเยอะแยะไปไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ฉันเจอจนชินแล้วล่ะ"
แก้ว รุ้งได้ยินยิ่งโกรธมาก ปรี่ไปเปิดประตูผลัวะกะวีนใส่เต็มที่ว่าคนหลงตัวเอง แต่กลับพบถาดอาหารเช้าวางอยู่ มีไข่ดาวสุกๆทำเป็นรูปหัวใจ ไส้กรอก แฮม และขนมปัง พร้อมน้ำส้มคั้น บนจานยังมีซอสมะเขือเทศวาดเป็นหน้าคนยิ้มแลบลิ้นทะเล้นๆ ทำให้แก้วรุ้งเผลอยิ้มออกมา แต่พอนึกได้ ก็เชิดใส่ "เชอะ...คิดเหรอว่าแผนตบหัวแล้วลูบหลังจะได้ผล"
แต่แก้วรุ้งก็อดแปลก ใจไม่ได้ว่าเหมันต์รู้ได้อย่างไร ว่าเธอชอบไข่ดาวสุกๆกับน้ำส้มคั้น เหมันต์แอบมองเธอยกถาดเข้าห้องไปสีหน้ามีความสุข พลันแก้วรุ้งเห็นจอ
ทีวี เปิดขึ้นมาเอง เป็นการติดต่อจากอาจารย์เพี้ยนให้เธอกับเหมันต์ ไปหาที่หมู่บ้านชาวประมงริมทะเล และให้เห็นว่าต๋องปลอดภัยดี แก้วรุ้งดีใจรีบจะออกไปบอกเหมันต์ แต่แล้วต้องตกใจเมื่อกินรีผลักประตูเข้ามา
"คุณกินรี!"
"ดวงแข็งจริงๆเลยนะ แก้วรุ้ง แต่คราวนี้อย่าคิดว่าจะพ้นเงื้อมมือฉันไปได้"
กินรี ย่างสามขุมเข้ามา แก้วรุ้งรีบวิ่งหนีออกจากบ้านเข้าไปในป่าอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง กินรีกระโดดตามกิ่งไม้ไปจนจับตัวแก้วรุ้งได้ แล้วกางกรงเล็บออกจะจ้วงแทง ทันใดมีเงาดำวูบผ่านเข้ามาซัดเธอกระเด็นแล้วพาตัวแก้วรุ้งไป... บริเวณริมน้ำตก เหมันต์ซึ่งช่วยแก้วรุ้งพ้นมาได้นั่งพักริมน้ำ เขาเอากระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำให้เธอดื่ม แก้วรุ้งยังงอนเขาอยู่พูดอย่างตัดพ้อ
"ขอบคุณพี่มากนะคะที่อย่างน้อยก็มาช่วยแก้ว ไม่งั้นแก้วคงตายไปแล้ว"
"ไม่ต้องขอบอกขอบใจฉันหรอก เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วที่ต้องคอยเทกแคร์พวกแฟนคลับที่บอก...รักฉัน" เหมันต์แกล้งเน้นประโยคหลัง
"พี่คงสับรางเก่งมากสิคะ ไม่งั้นคงเทกแคร์แฟนคลับไม่ทั่วถึง"
"มีแต่เธอเท่านั้นแหละ ที่หาเรื่องมาให้ฉันได้ไม่หยุด หย่อน เธอนี่มันตัวปัญหาจริงๆ"
แก้ว รุ้งก้มหน้านิ่งรู้สึกผิด เหมันต์ชักสงสารจึงพูดน้ำเสียงอ่อนลง "กินรีรู้แล้วว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ คงไม่ปล่อยไว้แน่ ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่ไหนดีนะ"
แก้วรุ้งนึกได้รีบบอกเรื่องหมู่บ้านชาวประมง "ตอนนี้อาจารย์เพี้ยน ต๋อง และอู๊ดหนีไปอยู่ที่นั่น เราไปสมทบกับพวกเขากันเถอะค่ะ"
เหมันต์ไม่มั่นใจว่าที่นั่นจะปลอดภัย แต่แก้วรุ้งบอกว่ามีกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิดวิธีป้องกันปิศาจ เหมันต์ไม่มีทางเลือก
กระถิน พิสูจน์ว่าอมรเลวร้ายอย่างที่แก้วรุ้งบอก จริงหรือไม่ ด้วยการไปที่ห้องดับจิตของโรงพยาบาล เอาผงแป้งวิเศษโรยที่ศพนักศึกษาที่ฆ่าตัวตายถึงสามศพ ผลออกมาว่ามีรอยเขี้ยวที่คอปรากฏขึ้นทั้งสามศพ และเธอยังได้รับผลตรวจดีเอ็นเอใหม่ว่าเธอเป็นลูกสาวด็อก-เตอร์ชาติอย่างแน่ นอน ทำให้กระถินผิดหวังและเสียใจ
คืนนั้น กระถินมาแอบดูอมรล่าเหยื่อนักศึกษาสาว เห็นคาตากำลังดูดเลือด จากนั้นก็ทำให้รอยเขี้ยวอันตรธานหายไป สีหน้ากระถินผิดหวังและแค้นใจ "นี่มันอะไรกันคะด็อกเตอร์!"
อมรคืนร่างเป็นคนปกติทำเป็นถามกระถินว่ามีอะไรหรือ กระถินตะคอก "แกไม่ใช่คน! แกใช่มั้ยที่เป็นฆาตกรอำมหิตตัวจริง"
"รู้ก็ดีแล้ว มาเป็นพวกเดียวกับฉันเถอะ รับรองว่าฉันจะดูแลเธออย่างดี" ตาอมรแดงวาบ
"ไม่ ฉันไม่มีวันยอมเป็นปิศาจของแกเด็ดขาด"
"น่าเสียดายที่เธอปฏิเสธข้อเสนอของฉัน ถ้าอย่างนั้นเธอก็เตรียมตัวเป็นอาหารของเหล่าบริวารฉันแล้วกัน"
ขนุน ลิ้นจี่ และลำไยกระโจนเข้ามาล้อมกระถินไว้ ลูกกบวิ่งตามหากระถิน ทะเล่อทะล่าเข้ามา เห็นสามสาวผลไม้มีเขี้ยวและกรงเล็บน่ากลัวก็ร้อง "แว้ก!! ปิศาจ!!"
"มาได้จังหวะพอดี จะได้ลงนรกพร้อมๆกัน" อมรผายมือ ทำให้เกิดลมพายุ ฟ้าผ่า
กระถิน โดดหลบ ขนุนไล่ตามลูกกบ ลิ้นจี่กับลำไยตามกระถิน...ลูกกบวิ่งหนีลงไปแอบในหนองน้ำที่มีแหนปกคลุมอยู่ บนผิวน้ำ ขนุนจึงไม่เห็น...พลังของลิ้นจี่กับลำไยสู้กระถินไม่ได้จึงถูกซัดร่วงกันไป อมรตามมาใช้พลังจิตบีบคอกระถิน โชคดีที่อาจารย์เพี้ยน ต๋องกับอู๊ดมาช่วยทัน ด้วยเครื่องมือที่แม้จะทำอะไรอมรไม่ได้ แต่ก็สร้างความรำคาญให้ไม่น้อย...แถมกินรียังมารายงานอีกว่าแก้วรุ้งยังไม่ ตาย เหมันต์หลอกพวกเรา อมรยิ่งแค้นจัด ตาวาวโรจน์ดุจดวงไฟ
เหตุการณ์ เมื่อคืน แม้จะรอดมาได้แต่ต๋องกับกระถินก็บาดเจ็บไม่น้อย...วันรุ่งขึ้น ทั้งสองตื่นขึ้นมาพบว่ากระถินมีเพียงผ้าขนหนูพันกาย ส่วนต๋องนุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์แค่ตัวเดียว ทั้งสองอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ก็ตกใจคิดว่าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น ต่างโวยวายใส่กัน
"ยัยกระทิงซกมก เธอลักหลับฉัน โอ้แม่เจ้า! นี่ฉันเสียความบริสุทธิ์แล้วหรือนี่" ต๋องชิงโวยก่อน
"ไม่ต้องมาทำกลบเกลื่อนเลย แกข่มขืนฉันใช่มั้ย ไอ้โรคจิต! ไอ้คนฉวยโอกาส ฉันจะฆ่าแก" กระถินเอาหมอนฟาดต๋องจนนุ่นกระจาย
ต๋องยกมือปกป้อง ปากก็โวย "นี่พอได้แล้ว...อย่าสำคัญตัวผิดนักเลย ต่อให้เหลือผู้หญิงคนเดียวทั้งโลก ฉันก็ไม่ยอมเสียตัวให้เธอ"
"ยี๋...ให้มีอะไรกับนาย ฉันยอมเหี่ยวแห้งเป็นบัวแล้งน้ำยังดีกว่า ไอ้ลามก!"
"ถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรฉัน แล้วทำไมเราสองคนถึงได้ ล่อนจ้อนอย่างนี้"
"คนที่รู้อยู่แก่ใจน่าจะเป็นนายมากกว่า ไอ้ผู้ชายซังกะบ๊วย" กระถินระดมทุบตีต๋อง
"ใครอยากพิศวาสนอนกับเธอไม่ทราบ"
"ถ้าแกไม่ได้ทำ แล้วใครทำ ฮ้า!"
"ฉันกับอู๊ดช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พวกเธอเอง" แก้วรุ้งถือกระเป๋าพยาบาลเข้ามา
ทั้ง สองตกใจหันมามอง พอกระถินเห็นแก้วรุ้งก็ดีใจ โผกอด ซักถามยกใหญ่ ต๋องอดแขวะไม่ได้ว่าถามขนาดนี้แก้วรุ้งจะตอบทันได้อย่างไร กระถินหันไปมองตาเขียวปั๊ด แก้วรุ้งรีบตอบก่อนที่จะเป็นเรื่องอีกว่าเธอสบายดี เหมันต์เป็นคนช่วยเธอให้ปลอดภัยจากปิศาจ จนเธอได้รับการติดต่อจากอาจารย์เพี้ยน ถึงตามมาที่นี่ "เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้แหละจ้ะ"
"โล่งอกไปที ไม่ได้ถูกไอ้นกฮูกปู้ยี่ปู้ยำ" กระถินถอนใจ
"ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าฉันยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเดิมน่ะสิ...ย้าฮู้..." ต๋องลิงโลด
"ฉันไม่คิดว่าเลยว่าด็อกเตอร์อมรจะเป็นปิศาจ และอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆทั้งหมด"
ต๋อ งอดต่อว่ากระถินไม่ได้ว่าเขาพูดปากเปียกปากแฉะ ไม่เชื่อ โดนกับตัวเองเข้าบ้างก็ดี แก้วรุ้งยืนยันว่าอมรคิดฆ่าเธอ แล้วโยนความผิดให้ต๋อง
"เห็นมั้ย ได้ยินชัดเต็มสองรูหูหรือยัง ยัยกระทิง" ต๋อง อดประชดประชันไม่ได้
กระถิน รู้สึกผิดแต่ยังทิฐิทำเมิน ต๋องทวงคำขอโทษ เธอจึงพูดเบาๆ ต๋องโวยว่าไม่ได้ยิน กระถินจึงตะโกนใส่หน้าว่า...ขอโทษ ต๋องบอกว่ายังไม่พอ ยังมีอีกคนที่เธอต้องขอโทษ แล้วชี้ไปที่อาจารย์เพี้ยน กระถินหน้าเจื่อน รู้ว่าตัวเองผิดมหันต์ ที่ก้าวร้าวอย่างมาก จึงเข้าไปก้มกราบ
"หนูขอโทษค่ะที่เข้าใจอาจารย์ผิดมาโดยตลอด ยกโทษ ให้หนูด้วยนะคะ"
อาจารย์ เพี้ยนน้ำตารื้นประคองกระถินลุกขึ้น "ช่างเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว สถานการณ์แบบนั้นเป็นใครก็ต้องเข้าใจผิด ฉันไม่โกรธเธอหรอก ไม่เคยเลยแม้แต่จะคิด..."
กระถินโผกอดอาจารย์เพี้ยนแล้วรู้สึกอบอุ่น อย่างประหลาด ทุกคนมองภาพนั้นแล้วปลื้มใจไปด้วย พลันอู๊ดร้องแว้ก...ขึ้นมา เพราะเห็นเหมันต์ตาแดงก่ำ เส้นเลือดปูดโปนบนหน้า เขี้ยวยาว ออกมา เดินเป็นผีดิบเข้ามา อู๊ดถอยกรูดขว้างปาข้าวของสกัดไว้ แต่ไม่ได้ผล ต๋องวิ่งเข้าไปชกหน้าเหมันต์ด้วยพลังเหนือมนุษย์ เหมันต์ฟุบลงสิ้นฤทธิ์ แก้วรุ้งตกใจร้องเรียกเหมันต์แล้วเข้าไปประคองร่างเขาร้องไห้โฮ
เหมันต์ ถูกต๋องจับมัดไว้ที่เสาสะพานไม้ที่ยื่นออกไปกลางทะเล ระดับน้ำขึ้นมาถึงเอว คลื่นซัดมาน้ำกระจายสาดใส่หน้า เหมันต์ได้สติขึ้นมา พบสายตาต๋องจ้องมองอย่างโกรธแค้น
"แกอยากตายด้วยวิธีไหนก็ว่ามา จะรอให้น้ำทะเลขึ้น หรือให้ฉันช่วยสงเคราะห์ แกจะได้ทรมานน้อยหน่อย"
"จะวิธีไหนมันก็ไม่ต่างกันหรอก แค่สายตาที่แกมองยังกับฉันไม่ใช่คน มันก็เลวร้ายจนเกินจะทนอยู่แล้ว"
ต๋องหลบตาอย่างหนักใจ "ฉันจำเป็น...ไม่ยังงั้นคนอื่น จะต้องเดือดร้อนเพราะแก"
"ถ้างั้น...แกก็รีบลงมือเถอะ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เหมันต์หลับตายืดอก
ต๋อง ดึงหลาวไม้ไผ่ขึ้นมาจ่อที่อกเหมันต์ เงื้อออกจะแทง แก้วรุ้งร้องลั่นวิ่งเข้ามาเอาตัวปกป้องเหมันต์ไว้ ต๋องชะงักบอกให้เธอหลีก แต่แก้วรุ้งไม่ยอม
"ไม่...การฆ่าพี่เหมันต์ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา มีแต่จะทำให้ ยิ่งสูญเสีย ถ้าต๋องจะทำอะไรพี่เขาก็ฆ่าแก้วด้วยเลยสิ"
"แต่มันเป็นปิศาจ..."
"พี่ เหมันต์ไม่ใช่ปิศาจเต็มตัว เขาเคยเป็นมนุษย์เหมือน พวกเรา แก้วเชื่อว่าจะต้องมีวิธีรักษาให้หายเป็นปกติได้" แก้วรุ้ง จ้องหน้าต๋องอย่างแน่วแน่
ต๋องขว้างหลาวทิ้งด้วยอารมณ์หงุดหงิด ผิดหวังเสียใจที่แก้วรุ้งปกป้องเหมันต์ แก้วรุ้งพาเหมันต์ขึ้นจากทะเล เช็ดหน้าทำแผลที่โดนชกให้ แต่เหมันต์กลับปัดมือเธอออกแล้วล้วงหยิบยาเม็ดที่เหลือเม็ดสุดท้ายในขวดออก มากิน แก้วรุ้งเห็นแล้วยิ่งกังวล
"ยาเม็ดสุดท้ายหมดแล้ว ถ้าอาการพี่กำเริบอีก จะทำยังไงดีคะ"
"ถึงเวลานั้น ฉันก็คงกลายเป็นปิศาจเต็มตัว"
"แก้วจะต้องหาวิธีช่วยพี่ให้ได้"
"เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย ทำไมต้องเสี่ยงเอาชีวิตมาเดิมพันกับฉันด้วย"
"ถ้าไม่มีพี่ ชีวิตแก้วก็ไม่มีความหมาย..." แก้วรุ้งจ้องตาเหมันต์บ่งบอกความจริงใจ
เหมันต์หักใจบีบไหล่เธอตวาด "อย่าโง่นักเลย ชีวิตเธอแลกกับปิศาจอย่างฉัน มันไม่คุ้มกันหรอก กลับไปหาฮีโร่ ของเธอซะ ไอ้ต๋องมันรออยู่"
พูด จบ เหมันต์หันหลังเดินจากไป ปล่อยให้แก้วรุ้งยืน ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เดียวดาย...ต๋องมาชกต้นมะพร้าวระบายอารมณ์จนมือแตก เลือดอาบ กระถินแอบมองด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน รู้สึกเจ็บช้ำใจทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเดินเลี่ยงมาเจอแก้วรุ้งร้องไห้อยู่ก็รีบเข้าไปปลอบ แก้วรุ้งโผกอดกระถิน ร้องไห้โฮ
ooooooo
ลูกกบต้องมาดูแลยายบัวที่โรงพยาบาลแทน กระถิน แป๊ะเล้งกับสำลีมาเยี่ยม ต่างบ่นที่ลูกหลานหายไปไหนกันหมดไม่รู้ ลูกกบอึกอักไม่กล้าพูดเรื่องอะไรทั้งสิ้น จนทุกคนพายายบัวกลับบ้าน ก็ยังไม่พบกระถิน ยายบัวจึงคาดคั้นถามลูกกบ
"เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละยาย" ลูกกบถึงกับหอบกว่าจะเล่าจบ
ยาย บัวแทบเป็นลม สำลีรีบเอายาดมให้ดม แป๊ะเล้งช่วยพัดวีแล้วพูดว่ากระถินยังมีอาจารย์เพี้ยนและต๋องช่วยดูแล ไม่น่าห่วง ยายบัวยกมืออธิษฐานขอให้คุณพระคุ้มครองกระถิน พอยายบัวกับลูกกบเดินออกมาส่งแป๊ะเล้งกับสำลีที่หน้าบ้าน ก็เจอลิ้นจี่กับลำไยโดดมาขวาง ทั้งสามได้เห็นปิศาจสมใจ ลูกกบรู้ฤทธิ์ ดีรีบบอกให้ทุกคนหนี ต่างพากันวิ่งกระเจิงหลบที่นั่นที่นี่กันโกลาหล จนมาจนมุมเพราะลิ้นจี่กับลำไยขวางหน้าและหลังไว้
"เตรียมตัวลงนรกได้แล้ว" สองปิศาจย่างสามขุมเข้าหา
พลัน เกิดพลังซัดมาอย่างแรง ลิ้นจี่และลำไยกระเด็นไปคนละทิศละทาง ต่างพากันหนีไปตั้งหลัก ยายบัว สำลี และแป๊ะเล้งแปลกใจว่าใครมาช่วย พอเงยหน้ามาดูก็เห็นขนุนอยู่ ในชุดสีดำยืนอยู่ ก็รีบเข้าไปขอบอกขอบใจ แต่พอลูกกบ
เงยหน้ามาเห็นก็ร้องลั่น
"ยาย...นั่นก็...ปะ...ปิศาจ!"
"นังหนู เอ็งเป็นปิศาจจริงๆเหรอ" ยายบัวถามให้แน่ใจ
"ค่ะ..." ขนุนพยักหน้ารับช้าๆ
ทุกคนร้องว้าก...แล้วพากันวิ่งหนีไป ขนุนตามลูกกบ เพื่อจะบอกอย่ากลัวเธอเลย แต่ลูกกบกลัวแทบเสียสติ ทั้งด่า ทั้งไล่ จนขนุนเสียใจ "แม้แต่ความรู้สึกดีๆที่เธอเคยมีให้ฉัน มันก็ไม่หลงเหลือแล้วใช่มั้ย...ได้ ต่อไปนี้ ฉันจะไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก"
ขนุน โดดหายไปกับความมืด ลูกกบคิดได้หันกลับ มาร้องเรียก แต่ไม่ทันเสียแล้ว...ขนุนกลับมาที่บ้านอมร ลำไยกับลิ้นจี่กำลังฟ้องกินรีว่าเธอช่วยเหลือมนุษย์ กินรีเล่นงานขนุนแต่เธอไม่ยอมรับและสู้ จนอมรต้องห้าม "น่ารำคาญที่สุด แทนที่จะช่วยกันกำจัดศัตรูกลับมาฟัดกันเอง"
ในคืนนั้น...แก้วรุ้งกับ ต๋องได้รับเมสเสจ ชวนกันใส่บาตรตอนเช้า พอเช้ามืด กระถินลุกขึ้นมาเตรียมของใส่บาตรไว้ให้ อาจารย์เพี้ยนเข้ามาพูดเป็นนัยๆ
"จะทำบุญอะไรก็อย่าให้ตัวเองเดือดร้อน เดี๋ยวจะไม่ได้บุญนะ"
กระถิน หน้าเจื่อนๆ...พอแก้วรุ้งกับต๋องใส่บาตรกันเสร็จ ต่างพูดคุยกันแล้วแปลกใจเพราะทั้งสองไม่ได้เป็นคนส่งข้อความหากันเลย กระถินแอบมองสองคนคุยกันแล้วเศร้า อาจารย์เพี้ยนเข้ามาจับไหล่ถามด้วยความห่วงใย "มาทำอะไรตรงนี้คนเดียว"
"ออกมาสูดอากาศยามเช้าน่ะค่ะ" กระถินกลบเกลื่อนความรู้สึก
"อากาศ ยามเช้าริมทะเลสดชื่นดีนะ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อะไรที่เป็นโทษทำให้ใจเราเศร้าหมองก็โยนมันทิ้งไปซะ...คนเราส่วนใหญ่เป็น ทุกข์ก็เพราะความคิดของตัวเอง คิดน้อยก็ทุกข์น้อย คิดมากก็ทุกข์มาก ไม่คิดก็ไม่ทุกข์"
"อาจารย์พูดอะไร หนูไม่เห็นรู้เรื่อง"
"ลองใช้หัวใจของเธอฟัง แล้วเธอจะเข้าใจ" อาจารย์ เพี้ยนยิ้มให้อย่างเข้าใจจิตใจกระถิน...
หัว ใจต๋องลิงโลด มีความสุขที่ได้ใส่บาตรกับแก้วรุ้ง เขาทำบะหมี่และหมูแดงเป็นรูปหัวใจหมายจะไปให้เธอ เหมันต์เข้ามาดูแล้วพูดว่า "แก้วรุ้งไม่กินของแบบนี้หรอก"
"จะกินหรือไม่กินมันก็ไม่เกี่ยวกับแก" ต๋องหน้าเครียดขึ้นมาทันที
"แก้วรุ้งไม่กินของหนักๆตอนเช้า แค่ชุดอาหารเช้ากับน้ำส้มคั้นแก้วนึงก็พอ อ้อ...ไข่ดาวสุกๆด้วยล่ะ"
ต๋องม องเหมันต์อย่างไม่ไว้ใจและถามว่าเราเป็นศัตรูกันไม่ใช่หรือ เหมันต์ตอบว่าระหว่างเราแยกไม่ออกหรอกว่า เป็นมิตรหรือศัตรู ต๋องจึงถามว่าเขาต้องการอะไร
"ฉันอยากให้แกสมหวังกับแก้วรุ้ง...ก็แค่นั้น" เหมันต์ เดินออกไป แล้วนึกได้วกกลับมาบอกว่าแก้วรุ้งชอบดอกกุหลาบขาวที่สุด
ต๋อง ยืนงงอยู่คนเดียว แต่ก็จัดทุกอย่างตามที่เหมันต์ บอกไปวางให้แก้วรุ้ง เธอดมดอกไม้สีหน้าตื่นเต้นดีใจ "ชุดอาหารเช้า น้ำส้มคั้น ไข่ดาวสุกๆซะด้วย ต๋องรู้ได้ยังไงเนี่ย ของโปรดแก้วทั้งนั้นเลยนะ"
ต๋องยิ้มแห้งๆไม่ ค่อยภูมิใจเท่าไหร่ พอดีมีบังขายถั่วผ่านมา เขานึกสนุกจึงซื้อถั่วแล้วมาสอนแก้วรุ้งกิน แบบที่กระถินเคยสอนเขา แก้วรุ้งทำไม่ได้ ผิดกับต๋องที่ดูอารมณ์ดีขึ้น ต๋องคะยั้นคะยอให้ทำ แก้วรุ้งจึงบอกว่าเธอแพ้ถั่ว ต๋องอึ้ง...เขาช่างไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับแก้วรุ้ง แต่เขากลับจำเรื่องของกระถิน ได้มากมาย เขาชักสับสนในใจเสียแล้ว
ooooooo
เห็น กระถินนั่งเศร้าซึมอยู่ริมหน้าผา เหมันต์จึงเข้ามาพูดลอยๆว่าเธอกับเขาไม่ต่างกันเลย กระถินหันมามองสีหน้าไม่เข้าใจ เหมันต์จึงพูดว่า "เราสองคนต่างก็เป็นผู้เสียสละด้วยกันทั้งคู่ แค่เฝ้าดูพวกเขามีความสุขอยู่ห่างๆก็พอใจแล้ว"
กระถินพูดไม่ออก ได้แต่นั่งมองคลื่นในทะเลอย่างเหงาๆ...ตกกลางคืน ทุกคนนั่งล้อมกองไฟ อาจารย์เพี้ยนกับอู๊ดดีดกีตาร์ ร้องเพลงกันสนุกสนานอยู่สองคน ไม่ว่าอู๊ดจะทำอะไรตลกๆก็ไม่มีเสียงหัวเราะจากกระถิน แก้วรุ้ง ต๋อง และเหมันต์เลย ต๋องเซ็งจะขอตัวไปนอนแต่อู๊ดยื้อไว้และให้อาจารย์เพี้ยนเล่นเกมถามปัญหา
"ถ้าพรุ่งนี้โลกแตก วันนี้...อยากจะอยู่กับใครมากที่สุด"
อู๊ด ทำท่าคิดก่อนจะตอบว่าคงอยู่กับเพื่อน แต่อาจารย์ เพี้ยนตอบว่าเขาอยากอยู่กับลูก ทุกคนหันมอง กระถินรีบถาม "อาจารย์มีลูกด้วยเหรอคะ?"
"ลูกฉันอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม แต่ก็เหมือนอยู่ไกลกันคนละโลก"
"โธ่...นึกว่าลูกอะไร ที่แท้ก็ลูกกรอกนี่เอง แล้วเธอล่ะกระถิน อยากอยู่กับใคร" อู๊ดตัดบท
"พ่อ...แม่ แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกท่านจากโลกนี้ไปแล้ว"
ต๋อง และอาจารย์เพี้ยนสงสารกระถินจับใจ อู๊ดให้บอกถึงคนอื่น กระถินจึงตอบใหม่แต่สายตามองไปที่ต๋องซึ่งนั่งชิดอยู่กับแก้วรุ้งว่า "ฉันคงอยากอยู่กับคนรัก แต่คนรักของฉันคงอยากใกล้ชิดกับคนอื่นมากกว่า"
"แกล่ะ ไอ้เหมันต์ นั่งเงียบเชียว" อู๊ดหันไปถามเหมันต์
"ฉัน อยากอยู่กับเจ้าของเพลงนี้..." เหมันต์เอากีตาร์มาดีดและร้องเพลงรักหวานๆเนื้อหาเกี่ยวกับดวงดาว เป็นเพลงเดียวกับที่เขาเป่าแซ็กโซโฟนให้แก้วรุ้งฟังคืนที่ดูดาวด้วยกัน
พอร้องจบ ทุกคนปรบมือ เหมันต์ยิ้มแล้วกล่าว "ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับคนที่ผมรักมากที่สุด...กระถิน!"
แก้ว รุ้งซึ่งยิ้มปลื้มอยู่ถึงกับหน้าเจื่อน กระถินตกตะลึง แก้วน้ำในมือต๋องหล่นอย่างไม่รู้ตัว อู๊ดแซว "พอรู้ว่าเหมันต์บอกรักกระถิน ถึงกับมือไม้อ่อนเลยเหรอวะ"
"แหม...ก็ยัยกระทิงอุตส่าห์ขายออกทั้งที จะไม่ให้ช็อกได้ไงวะ" ต๋องตลกกลบเกลื่อน
อู๊ด หันไปถามแก้วรุ้งอีกคน เธอจ้องหน้าเหมันต์หน้า บูดบึ้ง ตอบประชด "ถ้าโลกแตก...คนที่แก้วอยากอยู่ด้วยที่สุดก็คือ...ต๋อง เพราะเขาเป็นฮีโร่ของแก้ว"
"ไอ้ต๋อง...ถึงไม่บอกฉันก็รู้ว่าถ้าโลกแตกแกอยากอยู่กับใคร..." อู๊ดเป่าปาก โห่แซว
แก้วรุ้งสอดแขนคล้องแขนต๋องแล้วขอบคุณที่คอยดูแลช่วยเหลือเธอมาตลอด ต๋องดีใจลิงโลด "คุณแก้วยอมรับฉันเป็นแฟนแล้ว ย้าฮู้..."
เหมันต์ แกล้งไปเอาใจกระถินบ้าง แก้วรุ้งมองด้วยแววตา สุดขมขื่น...จากนั้น กระถินแยกตัวมานั่งริมทะเล เหมันต์เข้ามาขอโทษที่ดึงเธอมาเล่นละครต่อหน้าทุกคน
"ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก ในเมื่อเราสองคนต่างก็อยากให้เรื่องมันลงเอยแบบนี้อยู่แล้ว"
"ไม่เป็นไรก็ดี ฉันจะได้รู้สึกผิดน้อยลง"
"การเสียสละ บางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ฉันรู้ว่านายคิดยังไงกับแก้วรุ้ง นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ"
"หัวใจปิศาจอย่างฉันมันคงกระด้าง เย็นชา จนไร้ความ รู้สึกไปแล้วล่ะมั้ง...หมดเรื่องยุ่งๆสักที คราวนี้ฉันคงตายตาหลับ"
กระถิน ได้ยินแล้วทะแม่งๆต้องหันมามองเหมันต์ แต่เขานิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ...อีกด้านหนึ่ง ต๋องจูงมือแก้วรุ้งเดินเล่นริมหาด แต่ไม่รู้จะคุยอะไร จึงชวนให้ดูดาว กลับยิ่งทำให้แก้วรุ้งคิดถึงเหมันต์มากขึ้น จนเธอต้องขอตัวกลับไปนอนเพื่อซ่อนน้ำตาที่จะไหลออกมา...
ooooooo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น