กลางดึก แก้วรุ้งฟื้นขึ้นมา รู้สึกว่ามีใครกุมมือเธออยู่ พอมองไปเห็นเหมันต์นอนกุมมือเธออยู่ข้างๆก็รู้สึกอบอุ่นในใจ "พี่เป็นคนช่วยแก้วมาใช่มั้ยคะ...พี่...ว้าย ตายแล้ว"
แก้วรุ้งเห็น เลือดที่ไหลจากแผลหน้าท้องเหมันต์ เธอตกใจมากรีบวิ่งไปหาน้ำสะอาดมา ฉีกเสื้อของเขาออก แล้วมองหาผ้าที่จะเช็ดแผล ไม่มีจึงถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออกมาชุบน้ำเช็ดบาดแผลให้เขา "แผลลึกเสียด้วย พี่เจ็บมากแน่ๆ"
เหมันต์ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ นิ้วมือกระดิก แก้วรุ้ง
รีบบอกว่าเธอจะทำให้เบามือที่สุด แล้วปลอบเขาว่า "เข้มแข็งไว้ นะคะ พี่เจ็บตัวเพราะแก้วแท้ๆเลย แต่ทำไมเวลาเจอหน้าแก้ว
พี่ถึงชอบตีหน้ายักษ์ใส่แก้วนัก..."
แก้ว รุ้งเห็นเหมันต์นิ่งไปจึงก้มหน้ามามองหน้าเขาใกล้ๆอย่างพินิจพิจารณา "ความจริงพี่ก็ดูใจดีนะ รู้มั้ยคะเวลาพี่หลับพี่ดูอบอุ่นมากเลย แก้วอยากจะหยุดเวลาแล้วเก็บภาพนี้ไว้ในใจตลอดไป..."
เหมันต์ลืมตา ขึ้นมาสบตาแก้วรุ้ง ยิ้มแล้วดึงเธอมากอดแนบอก เธอตกใจร้องให้ปล่อย เขาพูดว่า "จะรีบไปไหนล่ะ อุตส่าห์ หยุดเวลาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ..."
"คนบ้านี่แอบฟังแก้วตั้งแต่เมื่อไหร่"
"แล้วที่แอบมองฉันอยู่ตั้งนานสองนานล่ะ จะคิดค่ามองเท่าไหร่ดี"
"แก้วไม่มีเงินติดตัวสักบาท"
"ใครว่าฉันอยากได้เงิน ฉันอยากได้..." เหมันต์ทำเป็นคิด พอแก้วรุ้งถามว่าอะไร เขาก็กอดเธอแน่นอีกและบอกว่า "...กอดดีๆสักทีนึง"
แก้วรุ้งนึกได้ว่าทับแผลเขาอยู่จึงรีบผละออกมองไปที่แผลเขา มันค่อยประสานหายไปเธอตกใจ "คุณพระช่วย! พี่ทำได้ยังไง!"
"ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามเลียนแบบ" เหมันต์ยังมีอารมณ์กวน
"มันไม่ตลกเลยนะคะ พี่เป็นตัวอะไรกันแน่"
เหมันต์ถอนใจลุกเดินออกไป แก้วรุ้งลุกตาม "พี่เหมันต์... พี่จะเดินหนีแก้วอีกกี่ครั้งคะ เมื่อไหร่จะพูดความจริงเสียที"
"ถ้าเธอรู้ความจริง เธอจะเกลียดฉันรึเปล่า?" เหมันต์
หันมาเผชิญหน้าเห็นเธออึ้งก็หัวเราะออกมา "ฮึๆ...ไม่น่าถามโง่ๆเลย"
"แล้วความจริงคือ...ว้าย ปล่อยแก้วนะ" แก้วรุ้งพูดไม่ทันจบเหมันต์ก็แบกเธอพาดบ่าวิ่งไปอย่างรวดเร็วราวพายุ
มา ถึงบ้าน หน้าบ้านแก้วรุ้งมีรถตำรวจจอดอยู่เต็ม คนในบ้านเป็นกังวลที่เธอหายไป เหมันต์พาแก้วรุ้งมาปรากฏบนห้องนอนแล้วปล่อยเธอลง สบตาเธอก่อนจะพูดว่า "กลับสู่โลกความจริง ลืมทุกอย่างไปซะ"
แก้วรุ้งดึงมือเหมันต์ไว้ "พี่จะให้แก้วลืมหรือคะ วันนี้มีคนจะฆ่าแก้ว...พี่รู้ใช่มั้ยคะ ใครต้องการชีวิตของแก้ว เขาจะฆ่าแก้วทำไม"
"ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายอีก"
แก้ว รุ้งขึ้นเสียงถามว่าใครจะฆ่าเธอ เธอจะให้พ่อจัดการ เหมันต์อึ้งก่อนจะขึ้นเสียงดังกว่า "ตำรวจทำอะไรมันไม่ได้ เข้าใจมั้ย พ่อเธอจะเดือดร้อนไปด้วย"
แก้วรุ้งจะพูดต่อ แต่มีเสียงเคาะประตูและเสียงเรียกจากจีรนุชขัดจังหวะ ไม่ทันไร จีรนุชกับเจษฎาเปิดประตูเข้ามา ท่าทางดีใจมากเมื่อเห็นเธอ เหมันต์หายวับไปตามเคย จีรนุชเข้ามากอดพร่ำถามว่าหายไปไหนมา
"คุณพ่อ คุณแม่"
"แม่แทบบ้าตายเลยรู้มั้ย คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะลูก"
"พ่อเห็นนายเพิ่มจอดรถหลับอยู่ริมรั้ว ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง"
"นี่ คุณพ่อเป็นห่วงมาก ให้ลูกน้องช่วยตามกันจ้าละหวั่น แต่อยู่ๆพ่อกับแม่เดินขึ้นมาได้ยินเสียงลูกในห้อง แก้วกลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่มีใครเห็นเลย..."
แก้วรุ้ง เล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่า เธอกลับมาบ้านตั้งแต่บ่าย เผลอนั่งหลับตรงระเบียบเลยไม่มีใครเห็น จีรนุชอยากจะตีลูกสาวสักทีที่ทำให้ตกอกตกใจ แก้วรุ้งขอโทษพ่อกับแม่...และในคืนนั้น กระถินโทร.มา แก้วรุ้งรีบรับสาย "กระถินเหรอจ๊ะ ว่าไง"
"แกต้องตาย..." เสียงปลายสายเป็นเสียงกินรีดูน่ากลัว
แก้วรุ้งคิดว่ากระถินล้อเล่น แต่พอพูดมาอีกว่า "ฉันไม่ใช่เพื่อนแก..."
"ฉันรู้ คุณใช้เบอร์กระถินโทร.เข้ามาได้ยังไง" แก้วรุ้งเดินออกมาพูดที่สนามหน้าบ้าน
เสียงกินรีหัวเราะ "แม่กวางน้อยแสนซื่อ ยังมีอะไรในโลกนี้ที่แกไม่รู้อีกแยะ แต่น่าเสียดายที่แกเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ไม่นานนัก"
"คุณ ใช่มั้ยที่มาฆ่าฉัน! คุณเป็นใคร จะฆ่าฉันทำไม!" ไม่ทันที่แก้วรุ้งจะพูดจบ ก็รู้สึกว่ามือถือร้อนจนต้องโยนทิ้งลงพื้น พลันมือถือระเบิดกระจายเป็นเสี่ยง แก้วรุ้งตกใจกลัว...
ooooooo
ส่วนตัวกระถิน ค้นภาพตอนเด็กๆที่ถ่ายกับยายบัวออกมาดู หน้าตาเธอเหมือนอินทุกาจริงๆ และยิ่งวันที่ยายบัวพบเธอตรงกับวันที่อินทุกาตาย ทำให้เธอเชื่อแน่แล้วว่าเธอคืออินทุกา แต่แปลกใจว่าทำไมถึงทำหลุมศพเธอทั้งที่เธอยังไม่ตาย กระถินมาเสิร์ชหาข่าวอินทุกา ชโรดม ในเน็ต พบพาดหัวข่าวว่า...บึ้มสยองสองศพ ดร.ชาติ ชโรดม นักวิจัยชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำเป็นเหตุให้นางเอมอร ภรรยาและ ด.ญ.อินทุกา บุตรสาว ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาที่...
กระถินคิดทบทวน แสดงว่าชาติคือพ่อของเธอ กระถินรีบไปที่โรงพยาบาลโรคจิตตามที่ลูกกบค้นหาให้ พอดีได้เจอคงเดชถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาจากลิฟต์จึงพุ่งเข้าไปถาม
"ขอโทษนะคะ รู้จักด็อกเตอร์ชาติ ชโรดม มั้ยคะ
ท่านเป็นหมอแผนกไหน"
คงเดชชะงักมองหน้ากระถินก่อนจะตอบว่า "ที่นี่ไม่มีหมอชื่อชาตินะครับ"
กระถิน ไม่เชื่อ คงเดชจึงให้ไปลองถามคนอื่นดูก็ได้ แล้วเดินเลี่ยงไป กระถินน้ำตาร่วงที่ไม่มีโอกาสเห็นหน้าพ่อ พลันได้ยินเสียงเพลงไพเราะดังมา เนื้อหากระทบจิตใจเธอมาก จึงเดินตามเสียงเพลงนั้นไป มาถึงห้องกิจกรรม มีคนไข้นั่งวาดภาพเล่นอยู่หลายคน รวมทั้งชาติที่นั่งนิ่งมีผ้าพันแผลพันหน้าครึ่งซีกอยู่ด้วย พอกระถินเดินผ่าน กล่องสีเกิดหล่นลงมา กระถินจึงหันมาช่วยเก็บขึ้นวางตรงหน้าชาติ เธอมองเขาอย่างรู้สึกสงสารจับใจ อยากให้เขารับรู้และมีความสุขจึงเอากระดาษมาวาดภาพพ่อจูงลูกสาว แล้วเขียนชื่อกำกับว่า พ่อชาติกับอินทุกา
"หนูอยากจับมือพ่อเหมือนแบบนี้แต่คงเป็นไปไม่ได้...ถ้าคุณลุงบังเอิญเจอพ่อของหนูช่วยบอกท่านด้วยนะคะ
ว่าหนูคิดถึงมาก" กระถินยกภาพขึ้นให้ชาติดูแล้ววางลงตรงหน้า
ชาติ น้ำตาเอ่อขึ้นมาจนหยดแปะลงบนภาพ กระถินเดินไป นักจิตบำบัดเดินสวนเข้ามาเห็นชาติมีปฏิกิริยาน้ำตาไหลก็ดีใจร้องขึ้นว่า "ด็อกเตอร์ชาติร้องไห้!"
"พ่อ! พ่อชาติ..." กระถินหันขวับมาทันที ถลาเข้ากอดชาติน้ำตาไหลพรั่งพรู
ทุก คนตะลึง คงเดชรีบเข้ามามองอึ้งๆ ชาติพยายามคุมสีหน้าให้นิ่ง คงเดชเข้ามาเข็นรถชาติพาออกไป กระถินวิ่งตามอยากคุยด้วย คงเดชบอกว่าเขาต้องรีบพาคนไข้ไปพักผ่อน
"ท่าทางคุณไม่อยากให้หนูคุยกับพ่อเลยนะคะ" กระถินต่อว่าคงเดช
"จากประวัติของคนไข้ ภรรยากับลูกสาวของด็อกเตอร์ชาติตายไปนานแล้วนะหนู"
"หนูไม่ได้โกหกนะคะ หนูเป็นลูกสาวที่ทุกคนเข้าใจว่าตายไปแล้ว"
"นี่หนู...หนูจะแต่งเรื่องทำไม หนูอยากมีพ่อเป็นคนป่วยทางจิตเหรอ"
"ไม่ว่าพ่อชาติจะเป็นอะไร พ่อชาติก็คือพ่อของกระถินค่ะ" กระถินสบตาคงเดชจริงจัง
จู่ๆ ชาติก็คุ้มคลั่งขึ้นมา ลุกขึ้นวิ่งออกไปร้องเรียกลูก...ลูก...อาละวาดเตะถังขยะและของที่ขวางหน้า รื้อค้นข้าวของหาลูก กระถินตกใจวิ่งเข้าไปดึงชาติมามองหน้าเธอ
"ลูกของพ่ออยู่นี่แล้วค่ะ พ่อมองกระถินสิคะ"
"ไม่..." ชาติตวาดแล้วผลักกระถินกระเด็นไป คว้าขวดน้ำแถวนั้นมาโอ๋เป็นลูกแทน
คง เดชเรียกบุรุษพยาบาลมาช่วยกันจับชาติ แล้วหันมาบอกกระถินก่อนจะพาชาติไป "เห็นหรือยัง ด็อกเตอร์ชาติไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลามาที่นี่อีกเลยนะครับ"
กระถินยืนน้ำตา ไหลพราก เดินเศร้าออกมายืนพิงต้นไม้ใหญ่ เสียงเหมันต์ดังมา "โสกราตีสเคยกล่าวไว้ว่า คนฉลาดที่สุดคือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย"
กระถิน มองไปตามเสียง เห็นเหมันต์ยืนอยู่บนต้นไม้เหนือหัวเธอ เหมันต์บอกให้เธอเลิกขุดคุ้ยอดีตแล้วไปจากที่นี่เสีย กระถินไม่พอใจย้อนถามว่าเขาเป็นใคร รู้เรื่องของเธอได้อย่างไร
"ถ้าเธอฉลาดก็รีบทำตามที่ฉันบอกซะ" เหมันต์พูดแล้วกระโดดไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
กระถินรีบกระโดดตัวลอยตามไปไม่ลดละ แต่ตามไม่ค่อยทัน "นายหนีฉันไม่พ้นหรอก"
เหมันต์ โดดข้ามป่าไผ่อย่างรวดเร็ว แล้วโดดออกจากป่าไผ่ลงบนแม่น้ำกว้าง วิ่งแตะน้ำไป กระถินมาหยุดชะงักไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงตะโกนไล่หลังไปว่าเธอต้องรู้ความจริงให้ได้
ในขณะเดียวกัน ต๋องถือถุงบะหมี่มากับอู๊ด เพื่อเอามาฝากอาจารย์เพี้ยน แต่ปรากฏว่าห้องล็อก เคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบ อู๊ดจึงบ่นว่าอาจารย์คงออกไปรับจ๊อบข้างนอก พลันเสียงอาจารย์เพี้ยนตวาดออกมา "สู่รู้จริงจริ๊ง ไอ้อู๊ดปากมอม"
สอง คนสะดุ้งแต่ไม่เห็นตัวอาจารย์เพี้ยน เขาตะโกนออกมาจากในห้อง และบอกให้เอาบะหมี่แขวนไว้ที่ประตู เขาท้องเสียจะเข้าห้องน้ำ แต่ต๋องเป็นห่วงไม่อยากให้บะหมี่เย็นชืด จึงปีนหน้าต่างเหยียบบ่าอู๊ดจะเข้าไป พอดีแก้วรุ้งเดินมาร้องเรียกต๋อง เขาหันไปมองพานให้อู๊ดเสียหลักต่างล้มกลิ้งไม่เป็นท่า แก้วรุ้งตกใจรีบขอโทษที่เป็นสาเหตุแล้วจะเดินไป ต๋องลุกขึ้นวิ่งตาม
"เดี๋ยวสิครับ คุณแก้ว จะรีบไปไหน" ต๋องดึงแก้วรุ้งให้หันมาจึงเห็นว่าเธอร้องไห้ "คุณแก้ว! ร้องไห้ทำไมครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้น"
ทั้ง สองมานั่งคุยกันที่มุมหนึ่งในสนามบาส แก้วรุ้งเล่าเรื่องที่มีคนจะฆ่าเธอด้วยความกลัว ต๋องจับมือปลอบใจว่าไม่ต้องกลัว เขาจะปกป้องเธอเอง พลันลูกบาสลอยมาตกใส่หัว ต๋องสะดุ้งหันไปมอง กระถินเดินเครียดเข้ามา "อย่ามาหลีเพื่อนฉันดีกว่า"
"ยัยกระทิงตัวแสบ!"
"มีปัญหาอะไรมั้ย ไอ้โรคจิต" กระถินเงื้อหมัด ต๋องร้องจ๊ากโดดหลบ
กระถิน เข้ามาดึงมือแก้วรุ้งชวนไปแจ้งความ จะยอมให้คนร้ายมาเหยียบจมูกลูกตำรวจได้อย่างไร แก้วรุ้งชะงัก นึกถึงคำเตือนของเหมันต์ รีบดึงมือกลับ "เอ่อ...คือ...แก้ว แก้วแค่ฝันร้ายน่ะ มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก แก้วขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนตกใจ"
แก้วรุ้งรีบวิ่งไป ต๋องกับกระถินงง แก้วรุ้งวิ่งมาหยุดหอบมุมหนึ่งแล้วพึมพำว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับใครไม่ได้ นอกจาก...เหมันต์...
ต๋อง กับกระถินเดินเร็วแข่งกัน ต่างไม่ยอมกันพยายามเบียดอีกฝ่ายให้พ้นทางอย่างหมั่นไส้ไม่ยอมเดินร่วมทาง กัน กระถินโวย "ไอ้บ้าตามฉันมาทำไมอีก"
"อู้ย...ตามเธอ ฉันตามควายดีกว่า..." ต๋องรีบเดินหนี
กระถินโกรธ ตามไปเบียดต๋องกระเด็น "ฮึย...หล่อตายแล้วไอ้โรคจิต"
"ยัยทอมจอมเหวี่ยง" ต๋องไม่ลดละตามไปเบียดกระถินกระเด็นบ้าง
"ไอ้นกฮูกขี้หลี" กระถินพุ่งเข้าจะกระชากแขนต๋อง แต่ดันสะดุดขาตัวเอง หน้าทิ่มเข้าไป
ต๋อง ไม่ทันตั้งหลัก แรงถลากลายเป็นดันตัวต๋องไปติดกำแพง และกระถินอยู่ในอ้อมกอดเขา กระถินเงยหน้าสบตาต๋องบ้องแบ๊ว ทั้งสองรู้สึกวูบวาบในใจ พลันลูกกบวิ่งเข้ามา ชะงัก...กระถินตกใจรีบผละออกจากต๋อง
"ชะอุ๋ย ลูกพี่มาทำอะไรเนี่ย อย่าบอกนะว่า ลูกพี่แอบมาพลอดรักกับไอ้ต๋อง"
"ปากเสีย!" ทั้งสองพูดพร้อมกัน
"อุ๊ย...ใจตรงกันเลยอ่ะ..." ลูกกบทำเสียงล้อ
กระถิน อายกระชากคอเสื้อลูกกบมาจะต่อยหน้า ลูกกบรีบยกมือไหว้ขอโทษ แล้วรีบบอกว่าอาจารย์เพี้ยนอยากพบ กระถินชะงักปล่อยลูกกบแล้วรีบไป...พอมาถึงอาจารย์เพี้ยนก็ยื่นนามบัตรให้ กระถินอ่านแล้วแปลกใจเพราะเป็นนามบัตร บก.ข่าวสถานีโทรทัศน์ที่ญี่ปุ่น
"เขาเป็นเพื่อนอาจารย์เอง อาจารย์จะฝากให้กระถินไปเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นั่น อะ...กรอกประวัติส่วนตัวซะ ที่เหลืออาจารย์จัดการให้เอง"
"แต่กระถินไม่อยากไปไหน"
"ไม่เอาน่า โอกาสดีๆได้โกอินเตอร์แบบนี้ หาไม่ได้ ง่ายๆ"
"แต่โอกาสที่กระถินจะได้เจอพ่อ มีค่ากว่าอะไรทั้งหมด... กระถินได้เจอพ่อแล้วนะคะอาจารย์ กระถินจะอยู่ที่นี่คอยดูแลพ่อค่ะ"
"ไม่ต้อง!" อาจารย์เพี้ยนตบโต๊ะปัง เผลอเสียงดัง
กระถินสะดุ้ง "อาจารย์ไม่อยากให้หนูอยู่กับพ่อหรือคะ"
"เออ...เปล่า กระถิน คนบ้าอย่างนั้นมันจะเป็นพ่อกระถินได้ยังไง" อาจารย์เพี้ยนเสียงอ่อนลง
"ฮึ อาจารย์ทราบได้ไงคะ กระถินยังไม่ได้เล่าเลย..."
อาจารย์เพี้ยนชะงัก รีบแก้ตัวว่า กระถินไปก่อเรื่องที่ไหนมา ทางนั้นเค้าโทร.มาฟ้อง กระถินเจื่อนลงเสียงอ่อยว่า
เธอ ไม่ได้กุเรื่อง ชาติเป็นพ่อของเธอจริงๆ อาจารย์เพี้ยนหาว่ากระถินเอาแต่ใจ กระถินย้อนว่า ความเป็นพ่อลูกไม่ได้อยู่ที่ทะเบียนประวัติ แต่อยู่ที่ใจ เธอชี้ที่ใจเธอ อาจารย์เพี้ยนอึ้งคิดหาคำพูดโน้มน้าว แต่กระถินตัดบท
"อาจารย์ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะคะ กระถินจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพ่อ แล้วก็สืบหาความจริงให้ได้" กระถินพูดแล้วเดินไป ปล่อยให้อาจารย์เพี้ยนมองตามด้วยความเป็นห่วง...
ขณะเดียวกัน อมรยังคงจับนักศึกษาเป็นเหยื่อสังเวยเลือดให้แก่เขา โดยมีกินรีคอยช่วย...วันต่อมา กระถินถือกระเช้าผลไม้ ไปเยี่ยมชาติด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง พอเปิดประตูห้องเข้าไป ต้องแปลกใจเมื่อพบอมรกำลังป้อนโจ๊กชาติอยู่บนเตียง
"อ้าว! กระถิน เธอน่ะเอง มาทำอะไรที่นี่ล่ะ"
"คือว่า...หนูมาเยี่ยม...ด็อกเตอร์ชาติน่ะค่ะ"
อมร ทำเป็นถามว่ากระถินรู้จักชาติด้วยหรือ ชาติชักกระตุกขึ้นมา พ่นโจ๊กรดเสื้ออมรจนอมรต้องหันหน้าหลบแอบกำหมัดไม่พอใจ กระถินตกใจที่เห็นชาติชัก เผลอเรียกพ่อออกมา
"พ่อ! ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ คนไข้ชักค่ะ" กระถินวิ่งไปกอดชาติ
อมร จำต้องทำเป็นตกใจช่วยเอามือตัวเองแหย่เข้าไปในปากชาติไม่ให้กัดลิ้น กระถินทึ่งที่เห็นอมรเสียสละขนาดนั้นอมรยอมทนแสดงความเป็นห่วง "ชาติ อดทนนะ อย่าเป็นอะไรนะ"
ชาติกระตุกตาเหลือก กัดมืออมรเต็มแรงแล้วหมดสติไป พยาบาลเข้าช่วยดึงมืออมรออกมาเลือดโชก "ตายแล้วคุณ รีบไปทำแผลเถอะค่ะ"
อมร ยังห่วงใยฝากพยาบาลให้ดูแลเพื่อนเขาด้วย กระถินซึ้งใจ ชื่นชมอมรอย่างยิ่ง...หารู้ไม่ว่าทุกอย่างที่แสดงออกเป็นแผนของอมรให้กระถิน ตายใจ
ooooooo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น